สาขา : ไฟฟ้าแขนงไฟฟ้ากำลัง
วิชา : Electrical Instruments and Measurements
เนื้อหาวิชา : 19 : Unit and standard of electrical measurement
ข้อที่ 1 :
- ข้อใดคือหน่วยวัดพื้นฐานทางไฟฟ้า (Base unit)
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 2 :
- แรงดันไฟฟ้าขนาด 10 kV ถ้าเขียนให้อยู่ในรูปของ MV จะตรงกับข้อใด
- 1 : 0.01 MV
- 2 : 0.1 MV
- 3 : 100 MV
- 4 : 1,000 MV
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 3 :
- คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งมีหน่วยความจำเป็นจำนวน 10 TB (Terabyte) ถามว่าหน่วยความจำนี้มีอยู่เป็นจำนวนกี่บิต (bit)
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 4 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 5 :
- 1 : 3.6 MJ
- 2 : 6.22 kJ
- 3 : 5.98 MJ
- 4 : 10.79 kJ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 6 :
- กรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ มีอุปกรณ์ที่สามารถตรวจสอบและสอบเทียบมาตรฐานของอะไร
- 1 : ความดัน (Pressure)
- 2 : อุณหภูมิ (Temperature)
- 3 : แรงดันไฟฟ้า (Voltage)
- 4 : เวลา (Time)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 7 :
- หน่วยความเข้มของสนามแม่เหล็ก (Magnetic field strength) คือ
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 8 :
- หน่วยความหนาแน่นของฟลักซ์แม่เหล็ก (Magnetic flux density) คือ
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 9 :
- อุปกรณ์ใดเป็นตัวสร้างแรงดันมาตรฐาน ในห้องปฏิบัติการ
- 1 : FET
- 2 : Transistor
- 3 : UJT
- 4 : Zener diode
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 10 :
- ในระบบ SI มวลมีหน่วยเป็น
- 1 : milligram (mg)
- 2 : gram (g)
- 3 : kilogram (kg)
- 4 : newton (N)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 11 :
- หน่วยหลักมูล ( Fundamental unit ) ทางกลใช้วัดอะไร
- 1 : ความยาว (Length)
- 2 : มวล (Mass)
- 3 : เวลา (Time)
- 4 : ถูกหมดทุกข้อ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 12 :
- หน่วยต่างๆในข้อใดที่ใช้วัดในระบบอังกฤษ
- 1 : เมตร กิโลกรัม วินาที
- 2 : เมตร ปอนด์ วินาที
- 3 : ฟุต ปอนด์ วินาที
- 4 : ฟุต กิโลกรัม วินาที
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 13 :
- สัญญาณแรงดันมาตรฐานที่ใช้ในเครื่องมือวัดอุตสาหกรรมคือข้อใด
- 1 : 0 V ถึง 5 V
- 2 : 0 V ถึง 10 V
- 3 : 1 V ถึง 5 V
- 4 : 1 V ถึง 10 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 14 :
- กระแสมาตรฐานที่ใช้ในเครื่องมือวัดและการวัดอุตสาหกรรมคือข้อใด
- 1 : 0 mA ถึง 10 mA
- 2 : 0 mA ถึง 20 mA
- 3 : 4 mA ถึง 10 mA
- 4 : 4 mA ถึง 20 mA
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 15 :
- การสอบกลับได้ (Traceability) ตามระบบ SI คือ
- 1 : มาตรฐานนานาชาติ มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานใช้งาน อุปกรณ์การวัด
- 2 : มาตรฐานใช้งาน มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานนานาชาติ อุปกรณ์การวัด
- 3 : มาตรฐานนานาชาติ มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานใช้งาน อุปกรณ์การวัด
- 4 : มาตรฐานใช้งาน มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานนานาชาติ อุปกรณ์การวัด
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 16 :
- ข้อใดไม่ใช่หน่วยอนุพัทธ์ (Derived unit) ทางไฟฟ้า
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 17 :
- มาตรฐานการวัดทางไฟฟ้า สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 มาตรฐานอะไรบ้าง
- 1 : มาตรฐานนานาชาติ มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานการใช้งาน
- 2 : มาตรฐานนานาชาติ มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานการสร้าง มาตรฐานการใช้งาน
- 3 : มาตรฐานนานาชาติ มาตรฐานการสร้าง มาตรฐานการใช้งาน มาตรฐานการตรวจสอบ
- 4 : มาตรฐานการสร้าง มาตรฐานการใช้งาน มาตรฐานการตรวจสอบ มาตรฐานการปรับแต่ง
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 18 :
- มาตรฐานการวัดทางไฟฟ้าประเภทใดที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงร่วมกันของหลาย ๆ ประเทศ
- 1 : มาตรฐานการใช้งาน
- 2 : มาตรฐานการปรับแต่ง
- 3 : มาตรฐานการสร้าง
- 4 : มาตรฐานนานาชาติ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 19 :
- ปริมาณใดดังต่อไปนี้ที่มีหน่วยเป็น candela (cd)
- 1 : Quantity of Charge
- 2 : Electromotive Force
- 3 : Luminous Flux
- 4 : Luminous Intensity
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 20 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 21 :
- ข้อใดที่ไม่ใช่หน่วยรากฐาน (Base units) ในระบบ SI
- 1 : หน่วย kg ของมวล
- 2 : หน่วย second ของเวลา
- 3 : หน่วย celsius ของอุณหภูมิ
- 4 : หน่วย mole ของจำนวนของสาร
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 22 :
- กำลังไฟฟ้ามีหน่วยเป็น watt จะแสดงในรูปของหน่วยรากฐาน (base unit) ได้เป็น
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 23 :
- แรงดันไฟฟ้ามาตรฐาน (voltage standard) ระดับปฐมภูมิในปัจจุบันคือ
- 1 : รอยต่อโจเซปสัน (Josephson junction)
- 2 : ซีเนอร์ไดโอด (Zener diode)
- 3 : สแตนดาร์ดเซลล์ (standard cell)
- 4 : แรงดันฮอลล์ (Hall voltage)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 24 :
- วิธีการสร้างกระแสไฟฟ้ามาตรฐาน (Electrical current standard) ระดับปฐมภูมิในปัจจุบันคือ
- 1 : เคอร์เรนต์บาลานซ์ (current balance)
- 2 : ปรากฏการณ์ฮอลล์ (Hall effect)
- 3 : ใช้รอยต่อโจเซปสัน (Josephson junction)
- 4 : ใช้ธาตุซีเซียม 133 (caesium 133)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 25 :
- หน่วยวัดค่าความเข้มสนามแม่เหล็ก (magnetic field strength) คือ
- 1 :
- 2 : A turn
- 3 : tesla
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 26 :
- อุณหภูมิศูนย์องศาสัมบูรณ์คือ
- 1 :
- 2 : 0 K
- 3 : 273.16 K
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 27 :
- 1 : 2 Pa
- 2 : 20 Pa
- 3 : 200 Pa
- 4 : 20 kPa
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 28 :
- ข้อใดเป็นการเขียนสมการบอกค่าแรงดันอาร์เอ็มเอส (rms) ขนาด 25 volt ที่ถูกต้องตามระบบ SI
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 29 :
- หน่วยของกระแสไฟฟ้าในระบบ SI เป็นวิธีการกำหนดมาตรฐานในกลุ่มใด
- 1 : กำหนดมาตรฐานของปริมาณจับต้องได้
- 2 : กำหนดมาตรฐานโดยนิยามกระบวนการวัด
- 3 : กำหนดมาตรฐานโดยอาศัยปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
- 4 : กำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 30 :
- เครื่องมือวัดที่ใช้งานในห้องทดลองของมหาวิทยาลัย ควรได้รับการตรวจสอบความแม่นยำและความน่าเชื่อถือด้วยมาตรฐานระดับใด
- 1 : มาตรฐานระหว่างประเทศ
- 2 : มาตรฐานปฐมภูมิ
- 3 : มาตรฐานใช้งาน
- 4 : มาตรฐานห้องปฏิบัติการ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 31 :
- มวล 27,500 กิโลกรัม เขียนในระบบ SI อย่างไรจึงจะถูกต้อง
- 1 : 27.500 Mg
- 2 : 27,500 Kg
- 3 : 0.275 Gg
- 4 : 27,500 kilograms
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 32 :
- 1 : 1366 candela
- 2 : 233244.5 candela
- 3 : 466489 candela
- 4 : 932978 candela
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 33 :
- มอเตอร์มีความเร็ว 500 rpm (revolutions per minute) คิดเป็นความเร็วเชิงมุมเท่ากับเท่าไร
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 34 :
- 1 : 20 rpm
- 2 : 40 rpm
- 3 : 1200 rpm
- 4 : 2400 rpm
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 35 :
- แรงที่กระทำต่อพื้นที่หนึ่งหน่วย มีหน่วยมาตรฐานตามระบบ SI ตรงกับข้อใด
- 1 : newton
- 2 : joule
- 3 : watt
- 4 : pascal
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 36 :
- ค่าความเหนี่ยวนำที่มีหน่วยเป็น henry หารด้วยค่าความจุไฟฟ้าที่มีหน่วยเป็น farad จะได้ผลลัพธ์มีหน่วยเป็นอะไร
- 1 : volt
- 2 : weber
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 37 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 38 :
- กำลัง (Power) มีหน่วยในระบบ SI ตรงกับข้อใด
- 1 : joule
- 2 :
- 3 :
- 4 : newton
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 39 :
- 1 :
- 2 : 1000 ps
- 3 : 1 ns
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 40 :
- ค่าความต้านทาน R คูณกับค่าความจุของตัวเก็บประจุ C จะได้ผลลัพธ์ที่มีหน่วยเป็นอะไร
- 1 : volt
- 2 : henry
- 3 : ampere
- 4 : second
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 41 :
- 1 : volt
- 2 : henry
- 3 : ampere
- 4 : newton
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 42 :
- 1 : V = 1.2 mV
- 2 : V = 12 mV
- 3 : V = 1.2 kV
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 43 :
- หนึ่งกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ประมาณเท่ากับ
- 1 : 3600 kcal
- 2 : 4200 kcal
- 3 : 860 kcal
- 4 : 9800 kcal
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 44 :
- นิวตัน เมตร เป็นหน่วยของ
- 1 : แรงบิด
- 2 : พลังงาน
- 3 : กำลัง
- 4 : งาน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 45 :
- แรงบิด 50 N ·m ขับโรเตอร์ที่ 600 รอบต่อนาที ทำให้เกิดกำลังเท่ากับ
- 1 : 500 W
- 2 : 3140 W
- 3 : 1570 W
- 4 : 30000 W
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 46 :
- วงจรขนานประกอบด้วย conductance ที่มีค่า 0.6 S และ susceptance ที่มีค่า 0.8 S ค่า admittance ของมันจะมีค่า
- 1 : 0.14 S
- 2 : 0.75 S
- 3 : 1.00 S
- 4 : 1.33 S
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 47 :
- ตัวเก็บประจุ ค่า 1 µF เมื่อป้อนด้วยแรงดัน 10 V จะมีประจุบนตัวเท่ากับ
- 1 : 0.1 µC
- 2 : 10 mC
- 3 : 10 µC
- 4 : 0.1 mC
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 48 :
- เมื่อป้อนแรงดันกระแสสลับที่มีค่าสูงสุด 100 V แก่หลอดไฟฟ้า ถ้าหากต้องการป้อนด้วยแรงดันกระแสตรงที่ทำให้เกิดความสว่างเท่ากับการป้อนด้วยแรงดันกระแสสลับนั้น จะต้องป้อนแรงดันกระแสตรงขนาด
- 1 : 100 V
- 2 : 70.7 V
- 3 : 141.4 V
- 4 : 35.4 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 49 :
- ค่ากระแสและแรงดันกระแสสลับ ที่กล่าวถึงปกติจะหมายถึง
- 1 : ค่าเฉลี่ย
- 2 : ค่ายอด
- 3 : ค่าประสิทธิผล
- 4 : ค่าที่ขณะใดๆ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 50 :
- ค่ากระแสและแรงดันกระแสสลับ ที่กล่าวถึงปกติจะหมายถึง
- 1 : Peak factor เป็น 1.414
- 2 : ค่า rms เท่ากับ 0.707× ค่ายอด
- 3 : ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.637 ×ค่า rms
- 4 : Form factor = 1.11
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 51 :
- แหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับเป็น 220 V 50 Hz ข้อความต่อไปนี้ข้อความใดที่ไม่ถูกต้อง
- 1 : คาบเป็น 20 ms
- 2 : ค่ายอดของแรงดันเป็น 220 V
- 3 : ค่าประสิทธิผลของแรงดันเป็น 220 V
- 4 : ค่ายอดของแรงดันเป็น 311 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 52 :
- กำหนดแรงดันกระแสสลับเป็น v1=100sin(100¶t-0.8) V ข้อความต่อไปนี้ข้อความใดถูกต้อง
- 1 : ค่าแรงดันประสิทธิผล คือ 100 V
- 2 : คาบเป็น 20 ms
- 3 : ความถี่เป็น 100 Hz
- 4 : แรงดันนำ v1=100sin100¶t อยู่ 0.8 เรเดียน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 53 :
- ขดลวดที่ประกอบด้วย ความต้านทาน X Ω ความเหนี่ยวนำ Y H นำมาต่อคร่อมแหล่งจ่ายแรงดันที่มีความถี่ K Hz ค่าอิมพีแดนซ์ของขดลวดนี้หาได้จาก
- 1 : X+Y
- 2 : (X2+Y2)1/2
- 3 : (X2+(2¶KY)2)1/2
- 4 : 2¶KY
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 54 :
- เมื่อต่อตัวเก็บประจุเข้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับ ค่ากระแสจะ
- 1 : นำแรงดันอยู่ 180 o
- 2 : มีเฟสเดียวกับแรงดัน
- 3 : นำแรงดันอยู่ ¶/2 เรเดียน
- 4 : ตามแรงดันอยู่ 90 o
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 55 :
- ตัวเก็บประจุที่มีค่าความจุ 1 µF ต่ออยู่กับแหล่งจ่ายที่มีความถี่ 50 Hz ค่ารีแอคแตนซ์เชิงความจุคือ
- 1 : 0.1¶ mΩ
- 2 : 10/¶ kΩ
- 3 : 10/¶ Ω
- 4 : 0.1¶ Ω
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 56 :
- ค่าคงตัวเวลาสำหรับวงจรที่ประกอบด้วยความเหนี่ยวนำ 100 mH อนุกรมกับความต้านทาน 4 Ω คือ
- 1 : 25 ms
- 2 : 40 s
- 3 : 157 ms
- 4 : 251 s
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
เนื้อหาวิชา : 20 : Instrument classification and characteristics
ข้อที่ 57 :
- เวลายอด (Peak time) ของผลตอบสนองมีค่าประมาณเท่าใด จากกราฟแสดงผลตอบสนองทางพลศาสตร์ต่อสัญญาณขั้นบันไดหนึ่งหน่วยของเครื่องมือวัด
- 1 : 1.5 s
- 2 : 3.3 s
- 3 : 7.5 s
- 4 : 12 s
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 58 :
- เวลาพุ่ง (Rise time) ของผลตอบสนองมีค่าประมาณเท่าใด จากกราฟแสดงผลตอบสนองทางพลศาสตร์ต่อสัญญาณขั้นบันไดหนึ่งหน่วยของเครื่องมือวัด
- 1 : 1.5 s
- 2 : 3.3 s
- 3 : 7.5 s
- 4 : 12 s
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 59 :
- เวลาคงตัว (Settling time) ของผลตอบสนองมีค่าประมาณเท่าใด จากกราฟแสดงผลตอบสนองทางพลศาสตร์ต่อสัญญาณขั้นบันไดหนึ่งหน่วยของเครื่องมือวัด
- 1 : 1.5 s
- 2 : 3.3 s
- 3 : 7.5 s
- 4 : 12 s
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 60 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 61 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 62 :
- เครื่องมือใดที่ใช้หลักของวิธีวัดแบบเทียบศูนย์ (Null method)
- 1 : อุปกรณ์วัดแสงในกล้องถ่ายรูป
- 2 : เทอร์โมมิเตอร์แบบปรอท
- 3 : เครื่องชั่งน้ำหนักแบบ 2 แขน
- 4 : เกจวัดความดันแบบบูร์ดอง (Bourdon)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 63 :
- 1 : 2.6 s
- 2 : 3.6 s
- 3 : 4.6 s
- 4 : 5.6 s
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 64 :
- การเปลี่ยนแปลงที่น้อยที่สุดของตัวแปรอินพุตที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้ที่เอาต์พุตของเครื่องมือวัด เรียกว่า
- 1 : ฮิสเทอรีซิส (Hysteresis)
- 2 : การเลื่อน (Drift)
- 3 : การแยกชัด (Resolution)
- 4 : ค่าขีดเริ่ม (Threshold)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 65 :
- ค่าขีดเริ่ม (threshold) ของเครื่องมือวัดมีนิยามว่าอะไร
- 1 : อัตราส่วนระหว่างค่าเอาต์พุตของเครื่องมือวัดต่อค่าอินพุต
- 2 : การเลื่อนของค่าเอาต์พุตของเครื่องมือวัดเนื่องจากอายุการใช้งาน
- 3 : ค่าที่มากที่สุดที่เครื่องมือวัดยังไม่สามารถวัดได้
- 4 : การเปลี่ยนแปลงที่น้อยที่สุดของตัวแปรอินพุตที่สามารถวัดได้
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 66 :
- ความใกล้เคียงกันระหว่างค่าที่วัดได้กับค่าจริงของตัวแปรที่ถูกวัดคือความหมายของข้อใด
- 1 : ความเที่ยงตรง (Precision)
- 2 : ความแม่นยำ (Accuracy)
- 3 : ความไว (Sensitivity)
- 4 : ความจำแนกชัด (Resolution)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 67 :
- เครื่องมือวัดกระแส 2 ตัว มีความยาวสเกลเท่ากัน โดยตัวหนึ่งมีพิกัด 0 ถึง 1 A และอีกตัวหนึ่งมีพิกัด 0 ถึง 10 A อยากทราบว่าเครื่องมือวัดตัวไหนมีความไวมากกว่ากัน
- 1 : เครื่องมือวัดที่มีพิกัด 0 ถึง 1 A มีความไวมากกว่า
- 2 : เครื่องมือวัดที่มีพิกัด 0 ถึง 10 A มีความไวมากกว่า
- 3 : เครื่องมือวัดทั้งสองมีความไวเท่ากัน
- 4 : ไม่มีข้อใดถูกต้อง
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 68 :
- การกระทำในข้อใดจัดเป็นกระบวนการวัดแบบทำซ้ำ (Reproduction measurement)
- 1 : ทอยลูกเต๋าลูกหนึ่ง 100 ครั้งและจดสถิติดูว่าออกเลข 1 กี่ครั้ง
- 2 : นำไข่ 100 ฟองมาชั่งน้ำหนักทีละฟองโดยเครื่องชั่งเครื่องหนึ่ง เพื่อหาค่าเฉลี่ยของน้ำหนักไข่ 1 ฟอง
- 3 : ใช้แอมมิเตอร์ (Ammeter) เครื่องหนึ่งไปวัดกระแสที่ใช้ในหลอดไฟดวงหนึ่งเป็นจำนวน 3 ครั้งติดต่อกัน เพื่อหาค่ากระแสที่แน่นอน
- 4 : ใช้โวลต์มิเตอร์ (Voltmeter) 3 เครื่องไปวัดแรงดันของแบตเตอรี่ลูกหนึ่งเพื่อหาค่าแรงดันที่เชื่อถือได้
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 69 :
- เครื่องมือวัดชนิดใดที่ใช้หลักการวัดเทียบศูนย์
- 1 : เครื่องชั่งน้ำหนักอิเล็กทรอนิกส์
- 2 : มิเตอร์วัดกำลังแบบอิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร์
- 3 : โพเทนชิโอมิเตอร์วัดแรงดัน
- 4 : กัลวาโนมิเตอร์
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 70 :
- การทำให้เครื่องมือวัดมีค่าขีดเริ่ม (Threshold) ลดลงทำได้โดย
- 1 : เปลี่ยนไปใช้พิสัยการวัดที่สูงขึ้น
- 2 : เปลี่ยนไปใช้พิสัยการวัดที่ต่ำลง
- 3 : เพิ่มแบนด์วิดท์ของเครื่องมือวัด
- 4 : ลดแบนด์วิดท์ของเครื่องมือวัด
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 71 :
- ความไว (sensitivity) ของเครื่องมือวัดหรือระบบการวัดคือ
- 1 : ค่าอัตราส่วนการเปลี่ยนแปลงของผลการวัดต่อการเปลี่ยนแปลงของปริมาณวัด
- 2 : คุณสมบัติในการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม ถ้าการทำงานของเครื่องมือมีผลกระทบมากก็หมายถึงมีความไวสูง
- 3 : ความรวดเร็วในการแสดงผลการวัด
- 4 : การตอบสนองต่อความถี่ของสัญญาณวัด
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 72 :
- ระบบการวัดในข้อใดที่เป็นระบบอันดับศูนย์ (zero order system)
- 1 : มิเตอร์พีเอ็มเอ็มซี (PMMC meter)
- 2 : โพเทนชิโอมิเตอร์ (potentiometer) วัดระยะขจัด
- 3 : กัลวาโนมิเตอร์ (galvanometer)
- 4 : อิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร์ (electrodynamometer)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 73 :
- 1 : 4.38 s
- 2 : 4.38 s
- 3 : 1.9 s
- 4 : 1.9 s
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 74 :
- 1 : 10.83 องศาเซลเซียส
- 2 : 36.51 องศาเซลเซียส
- 3 : 69.17 องศาเซลเซียส
- 4 : 80 องศาเซลเซียส
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 75 :
- ความไว (sensitivity) ของระบบการวัดมีคุณสมบัติตรงกับในข้อใด
- 1 : ฟังก์ชันถ่ายโอน (transfer function)
- 2 : ความเข้าใกล้กันระหว่างค่าวัดแต่ละครั้ง
- 3 : การตอบสนองพลวัต (dynamic response)
- 4 : ขนาดปริมาณวัดที่เล็กที่สุดที่ระบบการวัดตรวจวัดได้
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 76 :
- ความเที่ยงตรง (precision) คือ
- 1 : ความแตกต่างระหว่างค่าวัด (measured value) กับค่าปริมาณวัด (value of quantity)
- 2 : ความเข้าใกล้ค่าปริมาณวัดของค่าวัด
- 3 : ความเข้าใกล้กันระหว่างค่าวัดแต่ละครั้งที่ได้จากการวัดทวนซ้ำ (repetition measurement)
- 4 : อัตราส่วนของการเปลี่ยนแปลงของผลการวัดต่อการเปลี่ยนแปลงของปริมาณวัด
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 77 :
- ข้อใดเป็นคุณสมบัติของระบบอันดับศูนย์ (zero order system)
- 1 : มีแบนด์วิดท์ (bandwidth) เป็นอนันต์
- 2 :
- 3 :
- 4 : ระบบจะมีแบนด์วิดท์กว้างที่สุดเมื่อให้มีการหน่วง (damping) ประมาณ 0.7
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 78 :
- ระบบการวัดอันดับหนึ่ง (first order system) ที่มีค่าคงตัวเวลา (time constant) เท่ากับ 2 ms จะมีแบนด์วิดท์ประมาณเท่าไร
- 1 : 40 Hz
- 2 : 80 Hz
- 3 : 500 Hz
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 79 :
- การหาผลตอบสนองต่อความถี่ของระบบทำได้ด้วยการเปรียบเทียบสัญญาณออกกับสัญญาณเข้า สัญญาณเข้าที่จะป้อนให้ระบบต้องเป็นสัญญาณอะไร
- 1 : คลื่นไซน์ (sine wave) ความถี่คงที่
- 2 : สัญญาณแรมป์ (ramp signal)
- 3 : คลื่นสี่เหลี่ยม (rectangular wave)
- 4 : คลื่นไซน์ที่กวาด (sweep) ความถี่
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 80 :
- แอมมิเตอร์ (Ammeter) แบบดิจิตอลในข้อใดที่มีความจำแนกชัด (Resolution) ดีที่สุด เมื่อมิเตอร์กำลังแสดงค่าสูงสุดในพิสัยการวัด (Measurement range)
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 81 :
- เมื่อพิจารณาในเรื่องคุณสมบัติพลวัต (Dynamic characteristics) ของระบบ ระบบการวัดแบบใดที่มีแบนด์วิดท์ (Bandwidth) เป็นอนันต์ แสดงค่าวัดได้ทันทีที่ทำการวัด และไม่เกิดความเพี้ยน (Distortion) ขึ้นในผลการวัด
- 1 : ระบบอันดับศูนย์
- 2 : ระบบอันดับหนึ่ง
- 3 : ระบบอันดับสอง
- 4 : ระบบไม่เชิงเส้น
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 82 :
- 1 : 0.5 s
- 2 : 2.05 s
- 3 : 4.1 s
- 4 : 191 s
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 83 :
- ตัวบอกคุณสมบัติในการเปลี่ยนแปลงค่าปริมาณออก (Output quantity) ต่อปริมาณเข้า (Input quantity) ที่เหมาะกับระบบการวัดแบบไม่เชิงเส้น (Nonlinear) คือ
- 1 : ค่าขีดเริ่ม (discrimination threshold)
- 2 : ตัวประกอบสเกล (scale factor)
- 3 : ความไวเชิงอนุพันธ์ (differential sensitivity)
- 4 : ตัวประกอบความไว ( sensitivity factor)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 84 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 85 :
- ค่าขีดเริ่ม (Discrimination threshold) หมายถึง
- 1 : ฟังก์ชันถ่ายโอน (Transfer function) ของระบบ
- 2 : อัตราขยายสัญญาณของระบบ
- 3 : ความแตกต่างที่เล็กที่สุดของปริมาณวัดที่ระบบสามารถวัดได้
- 4 : ขนาดปริมาณวัดที่ใหญ่ที่สุดที่ระบบการวัดยังไม่สามารถวัดได้
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 86 :
- ข้อใดเป็นความหมายของระบบไม่เชิงเส้น (nonlinear system)
- 1 : ใช้หลักการซูเปอร์โพสิชัน (principle of superposition) หาค่าปริมาณออกได้
- 2 : สัญญาณออกมีรูปร่างไม่เหมือนสัญญาณเข้า
- 3 : กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณเข้ากับปริมาณออกจะเป็นเส้นตรงผ่านจุดเริ่มต้น (origin)
- 4 : ไม่เกิดความเพี้ยน (distortion)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 87 :
- ข้อใดเป็นคุณสมบัติของระบบการวัดอันดับศูนย์ (Zero order system)
- 1 :
- 2 :
- 3 : เกิดการออสซิลเลต (Oscillation) ที่ความถี่ธรรมชาติ (Natural frequency) ถ้าไม่มีการหน่วง (Damping)
- 4 : แบนด์วิดท์มีค่าเป็นอนันต์
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
เนื้อหาวิชา : 21 : Measurement system errors.
ข้อที่ 88 :
- ถ้าทำการวัดทวนซ้ำ (Repetition measurement) เป็นจำนวนครั้งที่มากพอ แล้วได้ผลการวัดที่มีการกระจายแบบปรกติ (normal distribution) ตัวเลือกข้อใดต่อไปนี้ที่ให้ความหมายไม่ถูกต้อง
- 1 : ค่าผิดพลาดสุ่ม (Random error) จะมีการกระจายอยู่รอบค่าเฉลี่ย
- 2 : ค่าเฉลี่ยของผลการวัดทั้งหมดก็คือ ค่าจริง (True value) ของปริมาณวัด
- 3 : เส้นกราฟ PDF (Probability density function) ของผลการวัดจะเป็นรูประฆังคว่ำ
- 4 : ค่าเฉลี่ยของผลการวัดทั้งหมดจะอยู่ที่จุดสูงสุดของเส้นกราฟ PDF พอดี
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 89 :
- จำนวน 415000.00 มีเลขนัยสำคัญ (Significant digit) กี่หลัก
- 1 : 3 หลัก
- 2 : 4 หลัก
- 3 : 6 หลัก
- 4 : 8 หลัก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 90 :
- ความผิดพลาด (Error) ในข้อใดต้องใช้วิธีทางสถิติในการปรับปรุงแก้ไข
- 1 : Nonlinear error
- 2 : Systematic error
- 3 : Random error
- 4 : ถูกทุกข้อ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 91 :
- สวิตช์แบบ Make before Break มีความสำคัญอย่างไรกับแอมมิเตอร์แอนะลอกแบบหลายย่านการวัด (Multi-range)
- 1 : ทำให้แอมมิเตอร์มีความไวเพิ่มขึ้น
- 2 : ทำให้สามารถเปลี่ยนย่านการวัดได้โดยไม่ต้องปลดสายวัดออกจากจุดวัดค่า
- 3 : ทำให้อายุการใช้งานของแอมมิเตอร์ยาวนานยิ่งขึ้น
- 4 : ทำให้แอมมิเตอร์มีขนาดเล็กลง
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 92 :
- การเลือกใช้มาตรวัดผิดประเภทในการวัดถือเป็นความผิดพลาดแบบใด
- 1 : Instrumental error
- 2 : Calibration error
- 3 : Human error
- 4 : Random error
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 93 :
- กำหนดให้ทำการวัดค่าความต้านทานของตัวต้านทานตัวหนึ่งโดยใช้โอห์มมิเตอร์เป็นจำนวน 10 ครั้ง โดยมีค่าที่วัดได้ในแต่ละครั้งดังต่อไปนี้ 98, 102, 101, 97, 100, 103, 98,106, 107, 99 ohm ตามลำดับ จงคำนวณหาค่าความเที่ยงตรง (Precision) ในการวัดครั้งที่สี่
- 1 : 0.88
- 2 : 0.89
- 3 : 0.96
- 4 : 1.01
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 94 :
- ในการวัดแรงดันของแบตเตอรี่โดยนักเรียนหกคน ได้ค่าแรงดันเป็น 20.20, 19.90, 20.05, 20.10, 19.85, 20.00 V ตามลำดับ นักเรียนลำดับที่เท่าใดวัดค่าแรงดัน ที่มีค่าเที่ยงตรงที่สุด
- 1 : 6
- 2 : 4
- 3 : 2
- 4 : 1
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 95 :
- ข้อมูลการวัดค่าความต้านทานจำนวนหนึ่งมีดังนี้ 10.16, 10.15, 10.14, 10.05, 10.00, 9.99 ohm จงหาค่าเฉลี่ย (Average value)ของการวัดค่าความต้านทานนี้
- 1 : 10.00 ohm
- 2 : 10.05 ohm
- 3 : 10.08 ohm
- 4 : 10.10 ohm
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 96 :
- ข้อมูลการวัดค่าความต้านทานจำนวนหนึ่งมีดังนี้ 10.16, 10.15, 10.14, 10.05, 10.00, 9.99 ohm จงหาค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) ของการวัดค่าความต้านทานนี้
- 1 : 0.00 ohm
- 2 : 0.05 ohm
- 3 : 0.08 ohm
- 4 : 0.10 ohm
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 97 :
- 1 : อยู่ระหว่าง 399.5 และ 400.5 mV
- 2 : อยู่ระหว่าง 399.2 และ 400.8 mV
- 3 : อยู่ระหว่าง 398 และ 402 mV
- 4 : อยู่ระหว่าง 395 และ 405 mV
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 98 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 99 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 100 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 101 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 102 :
- ในการวัดความผิดพลาดแบบสุ่ม (Random error) สามารถอ่านค่าที่วัดขนาดของแรงดันได้เป็น 3, 5, 7, 4, 8, 6, 5, 7, 6, และ 6 V ตามลำดับ จงคำนวณหาค่าเฉลี่ย (Average value)
- 1 : 5.7 V
- 2 : 5.8 V
- 3 : 5.9 V
- 4 : 5.10 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 103 :
- ในการวัดความผิดพลาดแบบสุ่ม (Random error) สามารถอ่านค่าที่วัดขนาดของแรงดันได้เป็น 3, 5, 7, 4, 8, 6, 5, 7, 6, และ 6 V ตามลำดับ จงคำนวณหาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation)
- 1 : 1.5 V
- 2 : 1.7 V
- 3 : 1.8 V
- 4 : 1.9 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 104 :
- ในการวัดแรงดันมาตรฐานขนาด 5 V ของโวลต์มิเตอร์แต่ละตัว ทำการวัดตัวละ 3 ครั้ง มิเตอร์ในคำตอบข้อใดที่มีค่าความเที่ยงตรง (Precision) ดีที่สุด
- 1 : 5.5 V, 5.3 V, 4.5 V
- 2 : 6.2 V, 6.0 V, 5.8 V
- 3 : 4.1 V, 4.0 V, 3.9 V
- 4 : 5.9 V, 5.0 V, 4.8 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 105 :
- หากต้องการวัดสัญญาณไซน์ความถี่ 600 Hz จะต้องทำการชักตัวอย่าง (Sampling) ด้วยความถี่เท่าใด จึงจะได้สัญญาณที่มีความถี่ 600 Hz แสดงบนหน้าจอ
- 1 : 100 Hz
- 2 : 300 Hz
- 3 : 700 Hz
- 4 : 1500 Hz
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 106 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 107 :
- ก่อนใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานจะต้องทำการปรับศูนย์ (Adjust zero) เพราะอะไร
- 1 : เพราะเข็มโอห์มมิเตอร์ไม่ชี้ที่ตำแหน่งศูนย์เนื่องจากสปริงเกิดความล้า
- 2 : เพื่อชดเชยแรงดันแบตเตอรี่ในเครื่องมือวัด
- 3 : เพื่อลดความฝืดของเดือยที่เป็นจุดหมุนของเข็มมิเตอร์
- 4 : เพื่อให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 108 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 109 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 110 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 111 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 112 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 113 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 114 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 115 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 116 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 117 :
- ในการทดลองวัดกระแสไฟฟ้า 5 ครั้งมีค่าดังนี้ 12.8 mA, 12.2 mA, 12.5 mA, 13.1 mA และ 12.4 mA จะมีค่าเฉลี่ย (Average value) จากการวัดเท่าไร
- 1 : 12.50 mA
- 2 : 11.65 mA
- 3 : 12.55 mA
- 4 : 12.60 mA
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 118 :
- ในการทดลองวัดกระแสไฟฟ้า 3 ครั้งมีค่าดังนี้ 12.8 mA, 12.2 mA, 12.5 mA การวัดครั้งที่ 1 มีค่าเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยเท่าไร
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 : 0.8 mA
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 119 :
- ในการทดลองวัดกระแสไฟฟ้า 3 ครั้งมีค่าดังนี้ 12.8 mA, 12.2 mA, 12.5 mA จงคำนวณหาผลรวมของค่าเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ย
- 1 : 0.33 mA
- 2 : -0.3 mA
- 3 : 0.3 mA
- 4 : 0 mA
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 120 :
- เกี่ยวกับการวัดค่าตัวแปรใดๆ ข้อใดกล่าวถูกต้อง
- 1 : ถ้ามีความถูกต้องจากการวัด (accuracy) จะมีค่าความเที่ยงตรงด้วย (precision)
- 2 : ถ้ามีค่าความเที่ยงตรง (precision) จะมีค่าความถูกต้อง(accuracy) จากการวัดด้วย
- 3 : ค่าความถูกต้อง (accuracy) จะไม่สัมพันธ์กับค่าความเที่ยงตรง (precision)
- 4 : สรุปไม่ได้
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 121 :
- 1 : 1.67 %
- 2 : 2.5 %
- 3 : 5 %
- 4 : 15%
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 122 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 123 :
- ในการวัดแรงดันตกคร่อมตัวความต้านทานนั้น โวลต์มิเตอร์ที่ใช้วัดจะทำให้เกิดการโหลดวงจรที่ทำการวัด ทำให้เกิดค่าผิดพลาดอันเนื่องมาจากการโหลด (Loading error) ขึ้นซึ่งจัดอยู่ในประเภทใด
- 1 : ค่าผิดพลาดสุ่ม (Random error)
- 2 : ค่าผิดพลาดเชิงระบบ (Systematic error)
- 3 : กระทำการวัดผิด (Mistake)
- 4 : ค่าผิดพลาดพาราแลกซ์ (Parallax error)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 124 :
- การขจัดค่าผิดพลาดเชิงระบบ (Systematic error) ออกจากผลการวัดทำได้ด้วยวิธีการใด
- 1 : การวัดแบบเทียบศูนย์ (Null method)
- 2 : การวัดแบบเบี่ยงเบน (Deflection method)
- 3 : กระบวนการวัดแบบทำซ้ำ (Reproduction measurement)
- 4 : กระบวนการวัดแบบทวนซ้ำ (Repetition measurement)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 125 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 126 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 127 :
- ข้อใดคือผลที่ทำให้เกิดค่าผิดพลาดสุ่ม (Random error)
- 1 : กดเครื่องคิดเลขผิดในการคำนวณผลการวัด
- 2 : ลูกปืนที่ใช้ในกีฬายิงปืนแต่ละลูกมีปริมาณดินปืนที่ไม่เท่ากัน
- 3 : เอาแอมมิเตอร์ (Ammeter) ไปวัดแรงดันไฟฟ้า
- 4 : ใช้โวลต์มิเตอร์ (Voltmeter) ที่มีความต้านทานด้านเข้าต่ำไปวัดแรงดัน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 128 :
- การกระทำในข้อใดจัดเป็นกระบวนวัดแบบทำซ้ำ (Reproduction measurement)
- 1 : ทอยลูกเต๋า 100 ครั้งและจดสถิติดูว่าออกเลข 1 กี่ครั้ง
- 2 : นำไข่ 100 ฟองมาชั่งน้ำหนักทีละฟองโดยเครื่องชั่งเครื่องหนึ่ง เพื่อหาค่าเฉลี่ยของน้ำหนักไข่ 1 ฟอง
- 3 : ใช้แอมมิเตอร์ (Ammeter) เครื่องหนึ่งไปวัดกระแสที่ใช้ในหลอดไฟดวงหนึ่งเป็นจำนวน 3 ครั้งติดต่อกัน เพื่อหาค่ากระแสที่แน่นอน
- 4 : ใช้โวลต์มิเตอร์ (Voltmeter) 3 เครื่องไปวัดแรงดันของแบตเตอรีลูกหนึ่งเพื่อหาค่าแรงดันที่เชื่อถือได้
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 129 :
- ในนัดชิงชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอล มีผู้ชมการถ่ายทอดสดในประเทศประมาณหนึ่งล้านสองแสนสี่หมื่นคน จะเขียนจำนวนผู้ชมตามหลักเลขนัยสำคัญได้อย่างไร
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 130 :
- 1 : 3 หลัก
- 2 : 4 หลัก
- 3 : 5 หลัก
- 4 : 7 หลัก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 131 :
- ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
- 1 : บอกให้ทราบว่าค่าวัดมีการกระจายตัวจากค่าตัวกลางเลขคณิตมากหรือน้อยเพียงไร
- 2 : บอกให้ทราบว่าค่าวัดมีการเบี่ยงเบนจากค่าจริงมากน้อยเพียงไร
- 3 : ถ้าความเบี่ยงเบนมาตรฐานมีค่าน้อยๆก็หมายถึงมีค่าผิดพลาดเชิงระบบน้อย
- 4 : ถ้าความเบี่ยงเบนมาตรฐานมีค่าน้อยๆก็หมายถึงค่าวัดทวนซ้ำส่วนใหญ่มีความเที่ยงตรงน้อย
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 132 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 133 :
- ถ้าผลการวัดแรงดันที่อ่านได้จากมิเตอร์มีค่าเป็น 10.450552 V แต่ต้องการความละเอียดอยู่ที่ระดับ 1 mV ค่าวัดที่ได้นี้ควรปัดเศษให้เหลือเป็นเลขในข้อใด
- 1 : 10.45 V
- 2 : 10.450 V
- 3 : 10.451 V
- 4 : 10.4506 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 134 :
- แบตเตอรี (battery) ก้อนหนึ่งระบุว่ามีแรงดันไฟฟ้าเท่ากับ 6.00 V แต่เมื่อทำการวัดด้วยโวลต์มิเตอร์ (voltmeter) แล้วได้เท่ากับ 5.94 V ค่าผิดพลาดจากการวัดครั้งนี้มีกี่เปอร์เซ็นต์
- 1 : 1 %
- 2 : 1 %
- 3 : 99 %
- 4 : 0.06 %
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 135 :
- 1 : 0 %
- 2 : 0.675 %
- 3 : 67.5 %
- 4 : 99.325 %
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 136 :
- 1 : 1.002
- 2 : 0.998
- 3 : 0.959
- 4 : 0.041
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 137 :
- 1 : 986,500 ~ 987,500
- 2 : 986,950 ~ 987,050
- 3 : 986,995 ~ 987,005
- 4 : 986,999.5 ~ 987,000.5
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 138 :
- ผลการวัดความต้านทานตัวหนึ่งได้ผลเป็น 100.00045 โอห์ม มีความไม่แน่นอนขยาย (expanded uncertainty) 0.00032 โอห์ม ที่ระดับความเชื่อมั่น (level of confidence) 95.45 % และมีการแจกแจงปรกติ (normal distribution) ความแปรปรวน (variance) ของค่าวัด (measured value) มีค่าเป็นเท่าไร
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 139 :
- 1 : 24 nF
- 2 : 48 nF
- 3 : 13.86 nF
- 4 : 9.8 nF
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 140 :
- ถ้าปริมาณออกของระบบการวัดเป็นผลจากปริมาณเข้าหลายๆตัว ควรรายงานความไม่แน่นอน (uncertainty) ของผลการวัดเป็น
- 1 : ความไม่แน่นอนมาตรฐาน (standard uncertainty)
- 2 : ความไม่แน่นอนขยาย (expanded uncertainty)
- 3 : ความไม่แน่นอนมาตรฐานรวม (combined standard uncertainty)
- 4 : ความแปรปรวน (variance)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 141 :
- ความไม่แน่นอน (uncertainty) แบบ A มีความหมายตรงกับข้อใด
- 1 : ความไม่แน่นอนที่ได้จากข้อมูลการวัดครั้งก่อนหน้า
- 2 : ความไม่แน่นอนที่ได้จากข้อมูลการสอบเทียบ (calibration) เครื่องมือวัด
- 3 : ความไม่แน่นอนที่คำนวณได้จากค่าชักตัวอย่าง
- 4 : ความไม่แน่นอนของวัสดุอ้างอิงที่ใช้ในการวัดเทียบศูนย์ (null method)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 142 :
- 1 : 16.66 %
- 2 : 16.66 %
- 3 : 9.09 %
- 4 : 9.09 %
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 143 :
- 1 : 0.10 %
- 2 : 0.10 %
- 3 : 0.05 %
- 4 : 0.05 %
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 144 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 145 :
- จำนวน 8904.23010 มีเลขนัยสำคัญ (significant digit) กี่หลัก
- 1 : 4 หลัก
- 2 : 6 หลัก
- 3 : 8 หลัก
- 4 : 9 หลัก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 146 :
- การวัดแบบใดที่สามารถช่วยในการขจัดค่าผิดพลาดเชิงระบบได้
- 1 : การวัดแบบเทียบศูนย์ (Null measurement)
- 2 : การวัดแบบอุปมาน (Analogy measurement)
- 3 : การวัดแบบทำซ้ำ (Reproduction measurement)
- 4 : การวัดแบบทวนซ้ำ (Repetition measurement)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 147 :
- เครื่องมือวัดในข้อใดที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบจากการโหลด (loading effect)
- 1 : โวลต์มิเตอร์แบบพีเอ็มเอ็มซี (PMMC meter)
- 2 : วัตต์มิเตอร์ (Wattmeter)
- 3 : โพเทนชิโอมิเตอร์วัดแรงดัน (Potentiometer)
- 4 : เทอร์โมคัปเปิลมิเตอร์ (Thermocouple meter)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 148 :
- จำนวน 24,000.05 มีเลขนัยสำคัญ (Significant digits) กี่หลัก
- 1 : 2 หลัก
- 2 : 3 หลัก
- 3 : 4 หลัก
- 4 : 7 หลัก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 149 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 150 :
- เมื่อทำการวัดทวนซ้ำ (Repetition measurement) แล้วได้ พีดีเอฟ (PDF) ของค่าชักตัวอย่างที่มีการแจกแจงปรกติ (Normal distribution) มีความหมายว่าอย่างไร
- 1 : ไม่เกิดค่าผิดพลาดสุ่มในผลการวัด
- 2 : การกระจายตัวของค่าชักตัวอย่างเกิดจากค่าผิดพลาดสุ่ม
- 3 : ไม่มีค่าผิดพลาดเชิงระบบในผลการวัด
- 4 : ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานก็คือค่าผิดพลาดเชิงระบบ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 151 :
- เมื่อต้องการรายงานผลการวัดที่มีระดับความเชื่อมั่น (Level of confidence) 90 % สำหรับผลการวัดทวนซ้ำ (Repetition measurement) ที่มีการแจกแจงปรกติ (Normal distribution) จะต้องใช้ตัวประกอบขอบเขต (coverage factor) ที่มีค่าเท่าไร
- 1 : 1.645
- 2 : 1.960
- 3 : 2
- 4 : 2.576
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 152 :
- ยิงปืน 10 นัดโดยกระสุนเข้าเป้าวงกลมทุกนัด แต้มสูงสุดเมื่อยิงเข้ากลางเป้าคือ 10 คะแนน และแต้มต่ำสุดเมื่อยิงไปที่ขอบนอกสุดคือ 1 คะแนน คะแนนผลการยิงแต่ละนัดเรียงจากนัดที่ 1 ถึง 10 ปรากฏดังนี้ 10 9 9 8 7 7 5 7 9 7 การยิงครั้งใดที่มีความเที่ยงตรง (Precision) ที่สุด
- 1 : ครั้งที่ 1
- 2 : ครั้งที่ 4
- 3 : ครั้งที่ 7
- 4 : ครั้งที่ 2, 3 และ 9
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 153 :
- . ยิงปืน 10 นัดโดยกระสุนเข้าเป้าวงกลมทุกนัด แต้มสูงสุดเมื่อยิงเข้ากลางเป้าคือ 10 คะแนน และแต้มต่ำสุดเมื่อยิงไปที่ขอบนอกสุดคือ 1 คะแนน คะแนนผลการยิงแต่ละนัดเรียงจากนัดที่ 1 ถึง 10 ปรากฏดังนี้ 10 9 9 8 7 7 5 7 9 7 การยิงครั้งใดที่มีความแม่นยำ (Accuracy) มากที่สุด
- 1 : ครั้งที่ 1
- 2 : ครั้งที่ 4
- 3 : ครั้งที่ 7
- 4 : ครั้งที่ 5, 6, 8 และ 10
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 154 :
- ยิงปืน 10 นัดโดยกระสุนเข้าเป้าวงกลมทุกนัด แต้มสูงสุดเมื่อยิงเข้ากลางเป้าคือ 10 คะแนน และแต้มต่ำสุดเมื่อยิงไปที่ขอบนอกสุดคือ 1 คะแนน คะแนนผลการยิงแต่ละนัดเรียงจากนัดที่ 1 ถึง 10 ปรากฏดังนี้ 10 9 9 8 7 7 5 7 9 7 ความไม่แน่นอนมาตรฐาน (Standard uncertainty) ของผลการยิงปืนมีค่าเท่าไร
- 1 : 1.96 คะแนน
- 2 : 1.4 คะแนน
- 3 : 1.48 คะแนน
- 4 : 2.18 คะแนน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 155 :
- จำนวน 0.023000 มีเลขนัยสำคัญ (Significant digits) กี่หลัก
- 1 : 2 หลัก
- 2 : 3 หลัก
- 3 : 5 หลัก
- 4 : 7 หลัก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 156 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 157 :
- สำหรับผลการวัดที่มีการแจกแจงปรกติ (Normal distribution) ถ้าบอกผลการวัดครั้งหนึ่งมาเป็นค่าวัด (Measured value) พร้อมกับความไม่แน่นอนขยาย (Expanded uncertainty) ที่มีตัวประกอบขอบเขต (Coverage factor) เท่ากับ 2 จะอธิบายความหมายของผลการวัดนี้ว่าอย่างไร
- 1 : ค่าวัดนี้มีระดับความเชื่อมั่น (Level of confidence) 95.45 %
- 2 : ค่าวัดนี้มีค่าเท่ากับ 95.45 % ของค่าปริมาณวัด (Value of measurand)
- 3 : มีค่าวัด 2 ครั้งที่มีระดับความเชื่อมั่น 95.45 %
- 4 : ความไม่แน่นอนมีค่าเท่ากับ 95.45 % ของค่าวัด
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 158 :
- 1 : 0.02 V
- 2 : 0.03 V
- 3 : 0.06 V
- 4 : 0.18 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 159 :
- 1 : 0.12
- 2 : 0.06
- 3 : 0.04
- 4 : 0.013
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 160 :
- 1 : 0.1 A
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 161 :
- 1 : 4 หลัก
- 2 : 6 หลัก
- 3 : 7 หลัก
- 4 : 10 หลัก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 162 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 163 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 164 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 165 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 166 :
- โวลด์มิเตอร์กระแสตรงเครื่องหนึ่ง มีพิสัย 0 ถึง 100 V มีความไว 20 kΩ/V และมีความแม่นยำ ±3 % ของค่าสุดสเกล เมื่อนำโวลต์มิเตอร์นี้ไปต่อวัดแรงดันในวงจรได้ 50 V คำตอบข้อใดที่ไม่ถูกต้อง
- 1 : แรงดันที่อ่านได้คือ (50 ±3) V
- 2 : ความต้านทานของโวลต์มิเตอร์คือ 2 MΩ
- 3 : แรงดันที่อ่านได้คือ 50(1 ± 3 %) V
- 4 : แรงดันที่อ่านได้คือ 50(1 ± 6 %) V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
เนื้อหาวิชา : 22 : Measurement of dc and ac current and voltage using indicating instruments
ข้อที่ 167 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 168 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 169 :
- มาตรวัดแบบ Electrodynamometer สามารถนำเอามาใช้วัดปริมาณทางไฟฟ้าอะไรได้บ้าง
- 1 : True power
- 2 : Power factor
- 3 : Reactive power
- 4 : ถูกทุกข้อ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 170 :
- 1 : 1.83 A
- 2 : 3.33 A
- 3 : 5.77 A
- 4 : 6.87 A
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 171 :
- มาตรวัดแบบ Thermocouple มีความเหมาะสมกับการนำไปใช้วัดปริมาณทางไฟฟ้ากระแสสลับที่มีคุณสมบัติใดมากที่สุด
- 1 : มีขนาดเล็กมากๆ
- 2 : ต้องการความเที่ยงตรงสูง
- 3 : มีความถี่สูงมากๆ
- 4 : ต้องการความแม่นยำสูงมากๆ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 172 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 173 :
- ความไวของโวลต์มิเตอร์มีหน่วยเป็น
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 174 :
- อุปกรณ์ที่ใช้เป็นแรงควบคุมของเครื่องมือวัดแบบขดลวดเคลื่อนที่คือ
- 1 : กรอบอะลูมิเนียม
- 2 : สปริงก้นหอย
- 3 : ฐานรองเดือย
- 4 : เข็มชี้
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 175 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 176 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 177 :
- โวลต์มิเตอร์ที่วัดไฟฟ้ากระแสสลับ ค่าที่อ่านได้คือ
- 1 : ค่าเฉลี่ย
- 2 : ค่าสูงสุด
- 3 : ค่าประสิทธิผล
- 4 : ค่าชั่วขณะ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 178 :
- 1 : 0 V
- 2 : 3.3 V
- 3 : 4 V
- 4 : 5 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 179 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 180 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 181 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 182 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 183 :
- ในการใช้งานโวลต์มิเตอร์แบบเข็มชี้ ควรเลือกย่านการวัดเพื่อให้เข็มชี้บริเวณใดเพื่อให้ความผิดพลาดของการวัดแรงดันมีค่าต่ำสุด
- 1 : บริเวณต้นสเกล
- 2 : บริเวณปลายสเกล
- 3 : บริเวณกลางสเกล
- 4 : บริเวณไหนก็ได้
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 184 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 185 :
- 1 : 5.0 mA
- 2 : 5.1 mA
- 3 : 5.2 mA
- 4 : 5.3 mA
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 186 :
- 1 : 0.00255 A
- 2 : 0.025 A
- 3 : 0.255 A
- 4 : 2.55 A
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 187 :
- ถ้าต้องการขยายย่านการวัดกระแสไฟฟ้าสลับ (AC)โดย การใช้หม้อแปลงกระแส (Current Transformer, CT) กำหนดให้กระแสที่ขดปฐมภูมิ (Primary current, Ip) เท่ากับ 800 แอมป์และ ให้จำนวนรอบที่ขดปฐมภูมิเท่ากับ 1 รอบและจำนวนรอบที่ขดทุติยภูมิเท่ากับ 160 รอบให้คำนวณหาค่า กระแสที่ขดทุติยภูมิ (Secondary current, Is)
- 1 : 5 A
- 2 : 6 A
- 3 : 7 A
- 4 : 8 A
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 188 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 189 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 190 :
- ถ้าต้องการนำแอมมิเตอร์ไปประยุกต์ใช้วัดแรงดันต้องทำอย่างไร
- 1 : ต่อแอมป์มิเตอร์ขนานกับจุดที่ต้องการวัดแรงดัน
- 2 : ต่อแอมป์มิเตอร์อนุกรมกับตัวต้านทานค่าสูงๆ แล้วจึงต่อขนานกับจุดที่ต้องการวัดแรงดัน
- 3 : ต่อแอมป์มิเตอร์อนุกรมกับตัวต้านทานค่าต่ำๆ แล้วจึงต่อขนานกับจุดที่ต้องการวัดแรงดัน
- 4 : ต่อแอมป์มิเตอร์อนุกรมกับตัวต้านทานค่าสูงๆ แล้วจึงต่ออนุกรมแทรกที่จุดที่ต้องการวัดแรงดัน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 191 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 192 :
- แอนะลอกมัลติมิเตอร์ตัวหนึ่งตั้งย่านวัดไว้ที่ 50 V จะสามารถอ่านค่าได้น้อยที่สุดเท่าใดถ้านำไปวัดแรงดัน 25 V เมื่อมิเตอร์มีความผิดพลาด 2% ที่ค่าเต็มสเกล
- 1 : 23 V
- 2 : 24 V
- 3 : 25 V
- 4 : 26 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 193 :
- แอมมิเตอร์โหลดดิ้ง (Ammeter loading) คืออะไร
- 1 : การที่แอมมิเตอร์วัดกระแสได้สูงกว่าความเป็นจริง เนื่องจากต่อมิเตอร์เข้าไปในวงจรวัด
- 2 : การที่แอมมิเตอร์วัดกระแสได้ต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากต่อมิเตอร์เข้าไปในวงจรวัด
- 3 : การนำแอมมิเตอร์ไปวัดค่ากระแสที่สูงเกินค่าเต็มสเกลของแอมมิเตอร์
- 4 : การนำแอมมิเตอร์ไปวัดค่ากระแสที่ต่ำเกินไป
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 194 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 195 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 196 :
- 1 : Integrator
- 2 : Differentiator
- 3 : Band-pass filter
- 4 : Low-pass filter
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 197 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 198 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 199 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 200 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 201 :
- เครื่องวัดแบบ PMMC มีการเบี่ยงเบนของเข็มเต็มสเกลที่ 90 องศา เมื่อมีกระแสไหลผ่าน 2 A จงหาค่ากระแสที่ทำให้เข็มเบี่ยงเบนไปที่มุม 30 องศา ถ้าเครื่องวัดเป็นแบบควบคุมด้วยสปริง
- 1 : 0.33 A
- 2 : 0.67 A
- 3 : 1.0 A
- 4 : 1.3 A
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 202 :
- มิเตอร์ชนิดใดที่เหมาะจะใช้วัดแรงดันของสัญญาณความถี่สูง
- 1 : มิเตอร์แบบพีเอ็มเอ็มซี (PMMC meter)
- 2 : อิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร์ (Electrodynamometer)
- 3 : เทอร์โมคัปเปิลมิเตอร์ (Thermocouple meter)
- 4 : กัลวาโนมิเตอร์ (Galvanometer)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 203 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 204 :
- ตัวประกอบค่ายอด (Crest factor) ของคลื่นไซน์มีค่าโดยประมาณเท่ากับ
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 205 :
- ค่าตัวประกอบรูปแบบ (Form factor) ของคลื่นไซน์มีค่าเท่ากับ
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 206 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 207 :
- การสร้างแอมมิเตอร์ เมื่อต้องการวัดกระแสเกินพิกัดของมัน จะต้องใช้ความต้านทานมาต่ออย่างไรในวงจร
- 1 : ความต้านทานค่าสูงต่ออนุกรมในวงจร
- 2 : ความต้านทานค่าต่ำต่อขนานในวงจร
- 3 : ความต้านทานค่าสูงต่อขนานในวงจร
- 4 : ความต้านทานค่าต่ำต่ออนุกรมในวงจร
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 208 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 209 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 210 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 211 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 212 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 213 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 214 :
- ข้อใดเกี่ยวข้องกับแรงหน่วง (damping force) ของเครื่องมือวัดแบบ PMMC
- 1 : แผ่นโลหะแบน (taut band)
- 2 : แผ่นตัวนำลัดวงจร (shortcircuited conductor)
- 3 : แรงต้านสปริง
- 4 : สปริงก้นหอย
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 215 :
- มิเตอร์ในข้อใดเหมาะที่จะใช้เป็น transfer instrument
- 1 : PMMC meter
- 2 : Thermocouplemeter
- 3 : Galvanometer
- 4 : Electrodynamometer
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 216 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 217 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 218 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 219 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 220 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 221 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 222 :
- เมื่อเข็มของมิเตอร์พีเอ็มเอ็มซี (PMMC meter) เบนไปถึงตำแหน่งที่เป็นค่าวัด วิธีอะไรที่ใช้ลดการแกว่งของเข็มชี้เสกล (Scale)
- 1 : ใช้แกนขดลวดแบบแผ่นโลหะแบน (taut band)
- 2 : ใช้แรงหน่วงที่มีการหน่วงขาดเล็กน้อย
- 3 : ใช้แรงหน่วงที่มีการหน่วงวิกฤต
- 4 : ใช้แรงหน่วงที่มีการหน่วงเกิน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 223 :
- คุณสมบัติสำคัญของอิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร์ (Electrodynamometer) ที่ทำให้เหมาะกับการใช้เป็นเครื่องมือทรานสเฟอร์ (transfer instrument) คือ
- 1 : วัดได้ทั้งกระแสตรงและกระแสสลับโดยไม่ต้องปรับแต่ง
- 2 : ความไวสูง
- 3 : ใช้วัดสัญญาณความถี่สูงได้ดี
- 4 : สเกลเป็นเชิงเส้น
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 224 :
- มิเตอร์ในข้อใดเป็นมิเตอร์วัดค่าประสิทธิผลจริง (True rms meter)
- 1 : เทอร์โมคัปเปิลมิเตอร์ (Thermocouplemeter)
- 2 : พีเอ็มเอ็มซีมิเตอร์ (PMMC meter)
- 3 : กัลวาโนมิเตอร์ (Galvanometer)
- 4 : โอห์มมิเตอร์ (Ohmmeter)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 225 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 226 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 227 :
- 1 : 6.37 V
- 2 : 9 V
- 3 : 10 V
- 4 : 14.14 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 228 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 229 :
- นำเซลไฟฟ้าที่แต่ละเซลมีแรงเคลื่อนไฟฟ้า 1.5 V จำนวน 3 เซล มาต่อขนานกัน แรงดันเอาท์พุตที่ได้ คือ
- 1 : 1.0 V
- 2 : 1.5 V
- 3 : 4.5 V
- 4 : 0.5 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 230 :
- เมื่อนำ แหล่งจ่ายแรงดัน 2 แหล่งคือ และ 5∠20o V มาต่อขนานกัน และ 5∠200o V จ่ายให้แก่ตัวต้านทานที่มีค่าความต้านทาน 10 Ω กระแสที่ไหลผ่านตัวต้านทานจะมีค่า
- 1 : 0.5 A
- 2 : 1 A
- 3 : 0 A
- 4 : ไม่มีข้อใดถูก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 231 :
- . เครื่องวัดแบบแม่เหล็กถาวรขดลวดเคลื่อนที่พื้นฐาน มีความต้านทาน 50 Ω และมีการเบี่ยงเบนสุดสเกล 0.1 A เมื่อแปลงเป็นแอมมิเตอร์พิสัย 0 ถึง 10 A ต้องต่อตัวต้านทานชันต์ ค่า
- 1 : 0.505Ω
- 2 : 0.02Ω
- 3 : 0.05Ω
- 4 : 0.205Ω
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 232 :
- เครื่องวัดแบบแม่เหล็กถาวรขดลวดเคลื่อนที่พื้นฐาน มีค่าความต้านทาน 500 Ω และมีค่ากระแสเบี่ยงเบนสุดสเกล 1 mA ต้องการทำเป็นโวลต์มิเตอร์กระแสตรงพิสัย 0 ถึง 25 V ต้องต่อตัวต้านทานตัวคูณ เท่ากับ
- 1 : 4500 Ω
- 2 : 24500 Ω
- 3 : 22000 Ω
- 4 : 2500 Ω
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 233 :
- เมื่อนำแอมมิเตอร์แบบแม่เหล็กถาวรขดลวดเคลื่อนที่ไปวัดกระแสไฟฟ้ากระแสสลับรูปไซน์ ที่มีค่ายอดเท่ากับ 100 A แอมมิเตอร์จะแสดงค่า
- 1 : 50 A
- 2 : 175 A
- 3 : 63.7 A
- 4 : 70.71 A
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 234 :
- ในการขยายพิสัยของแอมมิเตอร์จะใช้
- 1 : ชันต์ต่ออนุกรม
- 2 : ชันต์ต่อขนาน
- 3 : มัลติพลายเออร์ต่ออนุกรม
- 4 : มัลติพลายเออร์ต่อขนาน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 235 :
- ผลของการต่อโหลดเพิ่มขึ้นโดยต่อขนานกับโหลดเดิมที่ต่ออยู่กับแหล่งกำเนิดไฟฟ้า ทำให้เพิ่ม
- 1 : ความต้านทานของโหลด
- 2 : แรงดันของแหล่งกำเนิด
- 3 : กระแสที่ดึงจากแหล่งกำเนิด
- 4 : ความต่างศักย์คร่อมโหลด
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 236 :
- ข้อใดเป็นลักษณะของเครื่องวัดแบบแม่เหล็กถาวรขดลวดเคลื่อนที่
- 1 : สเกลเท่ากัน วัด DC
- 2 : สเกลเท่ากัน วัด AC
- 3 : สเกลไม่เท่ากัน วัด AC
- 4 : สเกลไม่เท่ากัน วัด DC
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
เนื้อหาวิชา : 23 : Potentiometers
ข้อที่ 237 :
- ข้อใดใช้เป็นส่วนประกอบของโพเทนชิโอมิเตอร์ที่ใช้วัดแรงดันไฟฟ้า
- 1 : กัลวาโนมิเตอร์
- 2 : เซลล์แรงดันมาตรฐาน
- 3 : ตัวต้านทานแบบ Slide wire
- 4 : ถูกทุกข้อ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 238 :
- เครื่องมือวัดในรูปนี้ประกอบด้วยตัวลดทอนและโพเทนชิโอมิเตอร์ (potentiometer) ที่มีพิสัยการวัด 1.5 V ถ้าสวิตช์ S อยู่ที่ตำแหน่ง A ตามในรูป ตัวประกอบการลดทอน (attenuation factor) จะมีค่าเท่าไร
- 1 : 1.125
- 2 : 100
- 3 : 200
- 4 : 225
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 239 :
- เครื่องมือวัดในรูปนี้ประกอบด้วยตัวลดทอนและโพเทนชิโอมิเตอร์ (potentiometer) ที่มีพิสัยการวัด 1.5 V ถ้าสวิตช์ S อยู่ที่ตำแหน่ง A ตามในรูปแล้วปรับให้เข็มของกัลวาโนมิเตอร์ (galvanometer) ชี้ที่ศูนย์เพื่อจะอ่านค่าวัด ในสภาวะนี้เครื่องมือวัดจะมีค่าความต้านทานด้านเข้าเป็นเท่าไร
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 240 :
- เครื่องมือวัดในรูปนี้ประกอบด้วยตัวลดทอนและโพเทนชิโอมิเตอร์ (potentiometer) ที่มีพิสัยการวัด 1.5 V พิสัยการวัดสูงสุดของเครื่องมือนี้มีค่าเท่าไร
- 1 : 1.5 V
- 2 : 150 V
- 3 : 200 V
- 4 : 300 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 241 :
- 1 : 0.5 V
- 2 : 5 V
- 3 : 10 V
- 4 : 40 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
เนื้อหาวิชา : 24 : Digital voltmeter and digital multimeters
ข้อที่ 242 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 243 :
- วงจรแปลงผัน Analog-to-Digital แบบ Successive-Approximation ขนาด 10 บิต จะใช้เวลาในการแปลงผัน (Conversion time) ต่อข้อมูลแอนะลอก 1 sample (ตัวอย่าง) อย่างน้อยที่สุดเท่าใด ถ้าสมมุติให้สัญญาณนาฬิกาที่ป้อนให้กับวงจรแปลงผันมีความถี่เท่ากับ 1 MHz
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 244 :
- ดิจิตอลโวลต์มิเตอร์ (DVM) หรือ ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ (DMM) แบบพกพา โดยทั่วไปจะใช้เทคนิคการแปลงสัญญาณแอนะลอกเป็นสัญญาณดิจิตอล (Analog to digital conversion : ADC) แบบใด
- 1 : Successive approximation ADC
- 2 : Single-slope ADC
- 3 : Dual-slope ADC
- 4 : Pulse-width ADC
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 245 :
- เทคนิคการแปลงสัญญาณแอนะลอกเป็นสัญญาณดิจิตอลแบบใดในคำตอบข้อนี้ ที่มีความเร็วในการแปลงสัญญาณเร็วที่สุด
- 1 : Successive approximation ADC
- 2 : Single-slope ADC
- 3 : Dual-slope ADC
- 4 : Pulse-width ADC
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 246 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 247 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 248 :
- หากนำ ADC ขนาด 8 บิต สามารถวัดแรงดันสูงสุดได้ที่ 512 V มาต่อกับแหล่งจ่ายแรงดันที่ค่อยๆเพิ่มแรงดันจาก 0 ถึง 100 V ในจังหวะที่เริ่มเพิ่มแรงดัน (หน้าจอจะแสดง 0 V) ถามว่าเลขจำนวนถัดไปที่จะถูกแสดงบนหน้าจอจะเป็นเลขจำนวนใด
- 1 : 1 V
- 2 : 1.5 V
- 3 : 2 V
- 4 : 4 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 249 :
- ความจำแนกชัด (Resolution) ของวงจร ADC (แปลงสัญญาณแอนะลอกเป็นดิจิตอล) ขึ้นอยู่กับปัจจัยใด
- 1 : จำนวนบิตที่ใช้
- 2 : ความไวในการแปลงสัญญาณ
- 3 : ความต้านทานขาเข้า (Input impedance)
- 4 : ความต้านทานขาออก (Output impedance)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 250 :
- 1 : 1000
- 2 : 1200
- 3 : 999.5 + 20 %
- 4 : 3500 + 20 %
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 251 :
- 1 : 1 mA
- 2 : 1.2 mA
- 3 : 10 mA
- 4 : 12 mA
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 252 :
- อะไรคือเหตุผลที่ควรใช้เอดีซีแบบดูออลสโลป (Dual-slope ADC) ในเครื่องมือวัดแบบดิจิตอล
- 1 : ใช้เวลาในการแปลงสัญญาณน้อยที่สุด
- 2 : ขจัดสัญญาณรบกวนแบบนอร์มอลโหมด (Normal-mode noise) ได้ดี
- 3 : ขจัดสัญญาณรบกวนแบบคอมมอนโหมด (Common-mode noise) ได้ดี
- 4 : มีค่าผิดพลาดควอนไทซ์ (Quantization error) น้อยที่สุด
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 253 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 254 :
- ถ้าต้องการดีเอซี (DAC) ที่มีค่าผิดพลาดควอนไทซ์ (Quantization error) ไม่เกิน 0.01 % จะต้องใช้ดีเอซีที่มีจำนวนบิตด้านเข้าอย่างน้อยกี่บิต
- 1 : 8 บิต
- 2 : 10 บิต
- 3 : 12 บิต
- 4 : 14 บิต
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 255 :
- เครื่องมือวัดแบบดิจิตอลที่ปริมาณวัดเป็นสัญญาณอนาลอกที่มีความถี่ไม่เกิน 25 kHz ตัวแปลงสัญญาณแอนะลอกเป็นดิจิตอลควรมีคุณสมบัติอย่างไร
- 1 : คาบเวลาการชักตัวอย่างสัญญาณต้องมีค่าไม่เกิน 20 µs
- 2 : ใช้เอดีซีแบบดูออลสโลปที่มีเวลาการอินทิเกรตไม่เกิน 20 ms
- 3 : ใช้เอดีซีแบบไบนารีแรมป์ที่สัญญาณนาฬิกามีความถี่ไม่ต่ำกว่า 2 เท่าของความถี่สัญญาณวัด
- 4 : ใช้เอดีซีแบบแฟลช (flash) ซึ่งทำงานได้เร็วที่สุด เพราะเป็นการวัดสัญญาณความถี่สูง
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 256 :
- 1 : 1.22 mV
- 2 : 0.61 mV
- 3 : 0.5 pV
- 4 : 0.5 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 257 :
- ดีเอซี (DAC) ขนาด 12 บิตจะมีค่าความผิดพลาดในการแปลงสัญญาณสูงสุดกี่เปอร์เซนต์ ถ้าคิดเฉพาะค่าผิดพลาดควอนไทซ์ (Quantization error)
- 1 : 0.1 %
- 2 : 0.01 %
- 3 : 0.024 %
- 4 : 0.025 %
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 258 :
- 1 : - 6.33 V
- 2 : - 7.68 V
- 3 : - 8.24 V
- 4 : - 10 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 259 :
- ถ้าต้องการลดค่าผิดพลาดควอนไทซ์ (quantizing error) ของการแปลงสัญญาณดิจิตอล (digital) ให้เป็นแอนะลอก (analog) ต้องทำอย่างไร
- 1 : ลดจำนวนบิตของวงจรแปลงสัญญาณ
- 2 : เพิ่มจำนวนบิตของวงจรแปลงสัญญาณ
- 3 : ต้องใช้ดีเอซีแบบไบนารีเวตเตด (binary-weighted DAC) เท่านั้น
- 4 : ต้องใช้ดีเอซีแบบอาร์ทูอาร์แลดเดอร์ (R-2R ladder DAC) เท่านั้น
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 260 :
- คุณสมบัติสำคัญของเอดีซีแบบอินทิเกรตติง (integrating ADC)ที่ทำให้เหมาะกับการใช้งานในเครื่องมือวัดแบบดิจิตอลคือ
- 1 : แปลงสัญญาณได้เร็วมากเมื่อเทียบกับเอดีซีแบบอื่น
- 2 : ไม่เกิดการเลื่อนค่าของอุปกรณ์ในวงจร
- 3 : ใช้แปลงสัญญาณความถี่สูงได้ดี
- 4 : มีค่า NMRR สูง
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 261 :
- 1 : 12.5 kHz
- 2 : 25 kHz
- 3 : 125 kHz
- 4 : 250 kHz
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 262 :
- ถ้าต้องการวงจร DAC (digital to analog converter) ที่มีค่าผิดพลาดควอนไทซ์ (Quantization error) ไม่เกิน 0.025 % จะต้องใช้ DAC ที่มีจำนวนบิต (bit) ด้านเข้าอย่างน้อยกี่บิต
- 1 : 8 บิต
- 2 : 10 บิต
- 3 : 12 บิต
- 4 : 14 บิต
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 263 :
- ADC (Analog to digital converter) แบบใดที่สามารถออกแบบให้ลดการรบกวนจากระบบไฟฟ้าตามบ้านเรือนได้
- 1 : Binary ramp ADC
- 2 : Flash ADC
- 3 : Successive approximation ADC
- 4 : Integrating ADC
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 264 :
- ADC แบบใดใช้เวลาแปลงสัญญาณมากที่สุด ถ้าใช้งานด้วยสัญญาณนาฬิกาที่มีความถี่เท่ากัน
- 1 : Flash ADC
- 2 : Binary ramp ADC
- 3 : Dual slope integrating ADC
- 4 : Successive approximation ADC
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 265 :
- ADC แบบใดที่มีการทำงานที่ไม่ขึ้นกับความถี่ของสัญญาณนาฬิกา
- 1 : Flash ADC
- 2 : Binary ramp ADC
- 3 : Dual slope integrating ADC
- 4 : Successive approximation ADC
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 266 :
- เอดีซีแบบแฟลช (flash ADC) ขนาด 8 บิต ต้องใช้ตัวเปรียบเทียบสัญญาณ (comparator) กี่ตัว
- 1 : 7 ตัว
- 2 : 8 ตัว
- 3 : 64 ตัว
- 4 : 255 ตัว
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 267 :
- 1 : 1 mV
- 2 : 10 mV
- 3 : 12 mV
- 4 : 0.1 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 268 :
- เอดีซีแบบซักเซสซีฟแอพพรอกซิเมชัน (SA ADC) ขนาด 10 บิต ที่ใช้สัญญาณนาฬิกา 2 MHz จะใช้เวลาแปลงสัญญาณเท่าไร
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 269 :
- 1 : 100.0 V
- 2 : 100.00 V
- 3 : 120.0 V
- 4 : 120.00 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 270 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 271 :
- โวลต์มิเตอร์ดิจิตอล วัด
- 1 : ค่ายอด
- 2 : ค่ายอดถึงยอด
- 3 : ค่าประสิทธิผล
- 4 : ค่าเฉลี่ย
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
เนื้อหาวิชา : 25 : Power measurement
ข้อที่ 272 :
- จากวงจรที่แสดง ถ้าโหลดมีทั้งค่า Resistance และ Reactance กำลังไฟฟ้ารวมมีค่าเท่าใด
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 273 :
- ค่ากำลังไฟฟ้าที่วัดได้โดยมิเตอร์วัดกำลังแบบอิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร์ (Electrodynamometer) คือ
- 1 : กำลังจริง (True power)
- 2 : กำลังปรากฏ (Apparent power)
- 3 : กำลังจินตภาพ (Reactive powewr)
- 4 : ตัวประกอบกำลัง (Power factor)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 274 :
- 1 : กำลังจริง (True power)
- 2 : กำลังจินตภาพ (Reactive power)
- 3 : กำลังปรากฏ (Apparent power)
- 4 : กำลังสูญเสียเป็นความร้อน (Power dissipated)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 275 :
- 1 : 0.45 %
- 2 : 0.27 %
- 3 : 0.16 %
- 4 : 0.02 %
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 276 :
- วัตต์มิเตอร์ 2 ตัว ใช้วัดวงจร 3 เฟส สมดุล อ่านค่าได้ 2000 W และ 500 W ตามลำดับ จงหาตัวประกอบกำลังของวงจร (Power factor)
- 1 : 0.51
- 2 : 0.69
- 3 : 0.72
- 4 : 0.85
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 277 :
- วัตต์มิเตอร์ 2 ตัว ใช้วัดวงจร 3 เฟส สมดุล อ่านค่าได้ 2000 W และ -500 W ตามลำดับ จงหาตัวประกอบกำลังของวงจร
- 1 : 0.33
- 2 : 0.51
- 3 : 0.85
- 4 : 0.94
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 278 :
- 1 : 200 mW
- 2 : 0.1 W
- 3 : 1000 mW
- 4 : 120 mW
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 279 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 280 :
- 1 W เป็นอัตราการทำงาน เมื่อพลังงานไฟฟ้าถูกแปลงเป็นพลังงานรูปอื่น ด้วยอัตรา
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 281 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 282 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 283 :
- หน่วยของกำลังจินตภาพ (Reactive power) คือ
- 1 : W
- 2 : VA
- 3 : VAR
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 284 :
- หน่วยของกำลังปรากฏ (Apparent power) คือ
- 1 : W
- 2 : VA
- 3 : VAR
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 285 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 286 :
- 1 : 0.22 A
- 2 : 0.38 A
- 3 : 0.66 A
- 4 : 1.14 A
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 287 :
- 1 : 13.97 W
- 2 : 24.2 W
- 3 : 41.9 W
- 4 : 72.6 W
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 288 :
- หน่วยของกำลังปรากฏ (Apparent power) คือ
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 289 :
- พิกัดกระแสของตัวต้านทานค่า 1 kΩ 0.5 W คือ
- 1 : 2.23 A
- 2 : 0.5 A
- 3 : 22.36 mA
- 4 : ไม่มีข้อใดถูก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 290 :
- ระบบสามเฟสต่อแบบเดลตาโหลดสมดุล มีแรงดันเฟสเป็น 240 V แรงดันสายเป็น
- 1 : 720 V
- 2 : 416 V
- 3 : 240 V
- 4 : 130 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 291 :
- ในระบบ 3 เฟส ต่อแบบ Y
- 1 : กระแสไลน์เท่ากับกระแสเฟส
- 2 : แรงดันไลน์เท่ากับแรงดันเฟส
- 3 : แรงดันไลน์กับกระแสไลน์ต่างเฟสกัน 30 o
- 4 : แรงดันไลน์กับแรงดันเฟสต่างกัน 30o+Ø
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 292 :
- กำลังไฟฟ้าจริง(true power)ในวงจรกระแสสลับกำหนดโดย
- 1 :
- 2 : I2XL
- 3 : I2R
- 4 : I2Z
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 293 :
- กำลังที่ใช้ไปโดยตัวต้านทานค่า 4 Ω เมื่อมีกระแส 5 A ไหลผ่านตัวมัน คือ
- 1 : 6.25 W
- 2 : 20 W
- 3 : 80 W
- 4 : 100 W
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 294 :
- ระบบที่ต่อแบบ Y 3 เฟส 4 สาย มีแรงดันเฟสเป็น 220 V จะมีแรงดันสายเท่ากับ
- 1 : 660 V
- 2 : 220 V
- 3 : 191 V
- 4 : 381 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
เนื้อหาวิชา : 26 : Measurement of electrical energy
ข้อที่ 295 :
- มิเตอร์ที่ใช้วัดพลังงานไฟฟ้าคือ
- 1 : Watt-hour meter
- 2 : Wattmeter
- 3 : Power factor meter
- 4 : Varmeter
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 296 :
- Watt-hour meter ที่ใช้ตามบ้านพักอาศัย เป็นแบบใด
- 1 : เหนี่ยวนำไฟฟ้า
- 2 : เมอร์คิวรี่
- 3 : คอมมิวเตเตอร์
- 4 : อิเล็กโตรไลติก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 297 :
- พลังงานไฟฟ้า 1 ยูนิตมีหมายความอย่างไร
- 1 : การใช้กำลังไฟฟ้า 100 W เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- 2 : การใช้กำลังไฟฟ้า 1000 W เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- 3 : การใช้กำลังไฟฟ้า 10000 W เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- 4 : การใช้กำลังไฟฟ้า 100000 W เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 298 :
- ทำการทดสอบ kWh meter ที่พิกัด 50 A, 230 V จานหมุนของมิเตอร์หมุน 61 รอบ ในเวลา 37 วินาที ถ้าปกติ จานหมุนมีความเร็ว 520 รอบ/kWh ให้หาค่าเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาด
- 1 : ช้า 0.75 %
- 2 : เร็ว 0.75 %
- 3 : ช้า 1.5 %
- 4 : เร็ว 1.5 %
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 299 :
- kWh Meter 230 V, 1 เฟส มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปยังโหลด (ที่มี PF = 1) 4 A คงที่ เป็นเวลา 6 ชั่วโมง หากในระยะเวลาดังกล่าวมิเตอร์หมุนได้ 2208 รอบ จงหาค่าคงที่ของมิเตอร์
- 1 : 200 รอบ kWh
- 2 : 300 รอบ/ kWh
- 3 : 400 รอบ/ kWh
- 4 : 500 รอบ/ kWh
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 300 :
- 1 W เป็นอัตราการทำงาน เมื่อพลังงานไฟฟ้าถูกแปลงเป็นพลังงานรูปอื่น ด้วยอัตรา
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 301 :
- ข้อใดเป็นหน่วยของพลังงานไฟฟ้า (Electrical energy)
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 302 :
- ในเครื่องวัดพลังงานชนิดเหนี่ยวนำ คำตอบต่อไปนี้ข้อใดถูกต้อง
- 1 : ไม่มีแม่เหล็กสำหรับหยุด
- 2 : ใช้แม่เหล็กกระแสตรงสองชิ้น
- 3 : ใช้สปริงเป็นตัวปรับสมดุล
- 4 : จานโลหะหมุนต่อเนื่อง
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 303 :
- ตัวเก็บประจุค่า 1 µF เมื่อป้อนด้วยแรงดัน 10 V จะมีพลังงานสะสมบนตัว เท่ากับ
- 1 : 0.25 µJ
- 2 : 5 µJ
- 3 : 50 mJ
- 4 : 50 µJ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 304 :
- ขดลวดขดหนึ่ง มีค่าความเหนี่ยวนำ 15 mH ต่อขนานกับตัวเก็บประจุที่มีค่า ความจุ 50 µF ต่อคร่อมแหล่งจ่ายแรงดัน 220 V ความถี่ 1/2¶ kHz กระแสที่จ่ายจากแหล่งจ่ายมีค่า
- 1 : 14.7 A นำอยู่ 90 o
- 2 : 3.7 A ตามอยู่ 90 o
- 3 : 14.7 A ตามอยู่ ¶/2 เรเดียน
- 4 : 3.7 A นำอยู่ ¶/2 เรเดียน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
เนื้อหาวิชา : 27 : Power factor measurement
ข้อที่ 305 :
- เครื่องวัดที่มีค่า 1 อยู่กึ่งกลางสเกล คือ
- 1 : วัตต์มิเตอร์
- 2 : เมกเกอร์
- 3 : วาร์มิเตอร์
- 4 : เพาเวอร์แฟกเตอร์มิเตอร์
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 306 :
- หลักการของมิเตอร์แบบใดที่ใช้ทำเพาเวอร์แฟกเตอร์มิเตอร์
- 1 : อิเล็กโทรไดนาโมมิเตอร์
- 2 : แผ่นเหล็กเคลื่อนที่
- 3 : ขดลวดเคลื่อนที่
- 4 : กระแสไหลวน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 307 :
- การวัดค่ากำลังไฟฟ้าระบบ 3 เฟสโดยใช้วัตต์มิเตอร์ 2 ตัว ซึ่งอ่านค่าได้ดังนี้ 10 kW และ 7kW เพาเวอร์แฟกเตอร์ของระบบมีค่า
- 1 : 0.1
- 2 : 0.29
- 3 : 0.96
- 4 : 0.98
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 308 :
- เข็มชี้ของ Power factor meter จะเบี่ยงเบนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ
- 1 : กระแสของโหลด
- 2 : แรงดันของโหลด
- 3 : กำลังไฟฟ้าจริงของโหลด
- 4 : เพาเวอร์แฟกเตอร์ของโหลด
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 309 :
- ความหมายของ Unity power factor คืออะไร
- 1 : เพาเวอร์แฟกเตอร์เท่ากับ 0
- 2 : เพาเวอร์แฟกเตอร์เท่ากับ 0.1
- 3 : เพาเวอร์แฟกเตอร์เท่ากับ 0.5
- 4 : เพาเวอร์แฟกเตอร์เท่ากับ 1
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 310 :
- 1 : กำลังจริง (True power)
- 2 : กำลังปรากฏ (Apparent power)
- 3 : กำลังสัมบูรณ์ (Absolute power)
- 4 : ตัวประกอบกำลัง (Power factor)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 311 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 312 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 313 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 314 :
- มอเตอร์ทำงานที่ เพาเวอร์แฟคเตอร์ 0.85 ใช้กำลัง 300 W จากแหล่งจ่ายกระแสสลับ 220 V กระแสที่ดึงจากแหล่งจ่ายคือ
- 1 : 0.62 A
- 2 : 1.36 A
- 3 : 1.13 A
- 4 : 1.60 A
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
เนื้อหาวิชา : 28 : The measurement of resistance, capacitance and inductance
ข้อที่ 315 :
- ในการวัดความต้านทานค่าสูงเช่นฉนวน Guard ring หรือ Guard wire มีหน้าที่สำคัญอะไร ที่ทำให้การวัดค่าความต้านทานค่าสูงแม่นยำขึ้น
- 1 : ป้องกันการคายประจุ (Discharge) ของอิเล็กโทรดเนื่องจากในขณะวัดใช้แรงดันที่สูงมาก
- 2 : เป็นกำบัง (Shield) สัญญาณรบกวนจากภายนอก ให้กับวงจรวัด
- 3 : กำจัดผลเนื่องจากกระแสรั่วไหลที่ผิวของฉนวนที่กำลังทำการวัด
- 4 : ถูกทุกข้อ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 316 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 317 :
- มิเตอร์ที่มีค่า 0 อยู่กึ่งกลางสเกล คือ
- 1 : โอห์มมิเตอร์
- 2 : เมกเกอร์
- 3 : กัลวาโนมิเตอร์
- 4 : แอมมิเตอร์
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 318 :
- สเกลของมิเตอร์ชนิดใดที่มีค่าต่ำสุดอยู่ทางขวามือ
- 1 : แอมมิเตอร์
- 2 : โวลต์มิเตอร์
- 3 : โอห์มมิเตอร์
- 4 : วัตต์มิเตอร์
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 319 :
- การวัดค่าความเป็นฉนวนนิยมใช้
- 1 : บริดจ์
- 2 : เมกเกอร์
- 3 : โวลต์-แอมป์
- 4 : โอห์มมิเตอร์
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 320 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 321 :
- ถ้าต้องการวัดค่าความต้านทานของเส้นลวดโลหะ ควรจะใช้วงจรบริดจ์แบบใด
- 1 : Wheatstone bridge
- 2 : Kelvin bridge
- 3 : Wien bridge
- 4 : ผิดทุกข้อ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 322 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 323 :
- จากวงจรที่แสดง เมื่อบริดจ์สมดุล สมการที่ได้จะเป็นอย่างไร
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 324 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 325 :
- 1 : 6 H
- 2 : 12 H
- 3 : 18 H
- 4 : 24 H
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 326 :
- ความต้านทานของลวดตัวนำ เป็นสัดส่วนโดยตรงกับ
- 1 : ความยาว
- 2 : พื้นที่หน้าตัด
- 3 : ความเร็ว
- 4 : ความดัน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 327 :
- ความต้านทานของลวดตัวนำ เป็นสัดส่วนผกผันกับ
- 1 : ความยาว
- 2 : พื้นที่หน้าตัด
- 3 : ความต้านทานจำเพาะ
- 4 : ความดัน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 328 :
- ความต้านทานของโลหะบริสุทธิ์
- 1 : ไม่เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ
- 2 : เพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น
- 3 : ลดลงเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น
- 4 : มีค่าคงที่เสมอ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 329 :
- 1 : 4.5 V
- 2 : 45 V
- 3 : 450 V
- 4 : 4500 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 330 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 331 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 332 :
- ตัวเหนี่ยวนำขนาด 0.46 H จะมีค่ารีแอกแตนซ์ (Reactance) ที่ความถี่ 2 kHz ประมาณ
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 333 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 334 :
- ถ้าจำนวนรอบของตัวเหนี่ยวนำ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ค่าความเหนี่ยวนำ (Self-inductance) จะประมาณ
- 1 : เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า
- 2 : ลดลงเป็น 4 เท่า
- 3 : เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
- 4 : ลดลงเป็น 2 เท่า
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 335 :
- โดยทั่วไปขนาดทางกายภาพของตัวต้านทานจะกำหนด
- 1 : อัตราแรงดัน
- 2 : อัตรากระแส
- 3 : อัตรากำลัง
- 4 : อัตราอุณหภูมิ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 336 :
- ตัวต้านทานที่มีแถบสี 4 แถบ บนตัวต้านทาน แถบสีแถบที่ 4 แสดงถึง
- 1 : เสถียรภาพ (Stability)
- 2 : ค่าเผื่อ (Tolerance)
- 3 : สัมประสิทธิ์ต่ออุณหภูมิ (Temperature coefficient)
- 4 : อัตรากำลัง (Wattage rating)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 337 :
- 1 : 0.405 mJ
- 2 : 0.625 mJ
- 3 : 0.705 mJ
- 4 : 0.835 mJ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 338 :
- ถ้ามีกระแส 5.4 A ไหลผ่านตัวเหนี่ยวนำค่า 14.6 H ตัวเหนี่ยวนำจะสะสมพลังงานประมาณ
- 1 : 39 J
- 2 : 79 J
- 3 : 213 J
- 4 : 426 J
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 339 :
- ตัวเหนี่ยวนำที่มีวงจรสมมูลดังในรูปนี้ ค่าตัวประกอบคุณภาพ (quality factor) มีค่าเท่าไรที่ความถี่ 1 kHz
- 1 : 0.013
- 2 : 2
- 3 : 79.58
- 4 : 500,000
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 340 :
- ตัวเก็บประจุที่มีวงจรสมมูลดังในรูปนี้ ตัวประกอบการสูญเสียกำลังเป็นความร้อน (dissipation factor) มีค่าเท่าไรที่ความถี่ 1 kHz
- 1 :
- 2 : 1
- 3 : 6283.19
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 341 :
- บริดจ์ (Bridge) ที่เหมาะจะใช้วัดหาค่าความเหนี่ยวนำไฟฟ้าของตัวเหนี่ยวนำที่มีค่าตัวประกอบคุณภาพ (quality factor) ต่ำคือ
- 1 : วีตสโตนบริดจ์ (Wheatstone bridge)
- 2 : เฮย์บริดจ์ (Hay bridge)
- 3 : เคลวินบริดจ์ (Kelvin bridge)
- 4 : แมกซ์เวลล์บริดจ์ (Maxwell bridge)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 342 :
- 1 : เป็นตัวเก็บประจุที่ไม่ดี
- 2 : จะร้อนมากเมื่อนำไปใช้งาน
- 3 : จะมีกระแสรั่วไหลสูงเมื่อนำไปใช้งาน
- 4 : มี Dissipation factor ต่ำเมื่อนำไปใช้งาน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 343 :
- บริดจ์ (Bridge) ที่ใช้วัดความต้านทานค่าต่ำๆได้ดีคือ
- 1 : วีตสโตนบริดจ์ (Wheatstone bridge)
- 2 : เคลวินบริดจ์ (Kelvin bridge)
- 3 : แมกซ์เวลล์บริดจ์ (Maxwell bridge)
- 4 : เฮบริดจ์ (Hay bridge)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
เนื้อหาวิชา : 29 : Digital frequency and period/time- interval measurement
ข้อที่ 344 :
- จงหาค่าความถี่ของสัญญาณอินพุตที่เข้าเครื่องนับความถี่ เมื่อช่วงเวลาการเปิดเกต (Gate time) เท่ากับ 100 ms และจำนวนพัลส์ที่นับได้ เท่ากับ 2534 พัลส์
- 1 : 253.4 Hz
- 2 : 2.534 kHz
- 3 : 25.34 kHz
- 4 : 253.4 kHz
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 345 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 346 :
- Duty cycle ของคลื่นสี่เหลี่ยมหมายถึง
- 1 : ค่าเวลา 1 คาบของคลื่น
- 2 : ค่าเวลาที่คลื่นสี่เหลี่ยมอยู่ในสถานะ high ในช่วง 1 คาบของคลื่น
- 3 : อัตราส่วนของเวลาที่คลื่นอยู่ในสถานะ high ต่อเวลาในสถานะ low ในช่วง 1 คาบของคลื่น
- 4 : อัตราส่วนของเวลาที่คลื่นอยู่ในสถานะ high ต่อเวลาทั้งหมดในช่วง 1 คาบของคลื่น
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 347 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
เนื้อหาวิชา : 30 : Oscilloscope
ข้อที่ 348 :
- Oscilloscope โดยพื้นฐานจัดเป็นเครื่องมือวัดประเภทใด
- 1 : 1: เครื่องมือวิเคราะห์สัญญาณในโดเมนเวลา
- 2 : 2: เครื่องมือวิเคราะห์สัญญาณในโดเมนความถี่
- 3 : 3: เครื่องวัดกำลังสัญญาณ
- 4 : 4: เครื่องวัดความเพี้ยนของสัญญาณ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 349 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 350 :
- เครื่องวัดรูปคลื่นสัญญาณต่างๆคือ
- 1 : Tachometer
- 2 : Phase sequence indicator
- 3 : Function generator
- 4 : Oscilloscope
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 351 :
- ถ้าต้องการแสดงรูปสัญญาณไซน์บนจอออสซิลโลสโคป ในส่วนแนวนอนเราจะป้อนสัญญาณ
- 1 : ฟันเลื่อย
- 2 : พัลส์
- 3 : สามเหลี่ยม
- 4 : สี่เหลี่ยม
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 352 :
- โดยพื้นฐานออสซิลโลสโคปใช้วัดปริมาณ
- 1 : กำลังไฟฟ้า
- 2 : แรงดันไฟฟ้า
- 3 : กระแสไฟฟ้า
- 4 : พลังงานไฟฟ้า
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 353 :
- 1 : เส้นตรงแนวตั้ง
- 2 : เส้นตรงทแยง
- 3 : วงกลม
- 4 : เป็นจุดกลางจอ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 354 :
- การเลือกสัญณาณแบบ dc coupling ทางด้านอินพุทของออสซิลโลสโคปนั้น สัญญาณจะต้องส่งผ่านอุปกรณ์ตัวใด
- 1 : ออปแอมป์
- 2 : ตัวเก็บประจุ
- 3 : ตัวเหนี่ยวนำ
- 4 : สายนำสัญญาณ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 355 :
- จากรูปหน้าจอออสซิลโลสโคป ถ้าปรับปุ่มTIME/DIV ไว้ที่ 1 ms/div ข้อใดถูกต้อง
- 1 : สัญญาณทั้งสองมีความถี่ 125 Hz และต่างเฟสกัน 63 องศา
- 2 : สัญญาณทั้งสองมีความถี่ 125 Hz และต่างเฟสกัน 126 องศา
- 3 : สัญญาณทั้งสองมีความถี่ 250 Hz และต่างเฟสกัน 63 องศา
- 4 : สัญญาณทั้งสองมีความถี่ 250 Hz และต่างเฟสกัน 126 องศา
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 356 :
- ตัวลดทอนสัญญาณ (Attenuator) จะต้องเป็นอิสระต่ออะไร
- 1 : ความเร็ว
- 2 : ความเร่ง
- 3 : ความสว่าง
- 4 : ความถี่
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 357 :
- ปุ่มปรับความเข้มแสง (Intensity control) ของออสซิลโลสโคปควบคุมที่ส่วนใดของหลอดรังสีแคโทด
- 1 : ไส้หลอด (Filament)
- 2 : แคโทด (Cathode)
- 3 : ปืนอิเล็กตรอน (Electron gun)
- 4 : กริดควบคุม (Control grid)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 358 :
- ปุ่ม Time/div ของออสซิลโลสโคปทำหน้าที่อะไร
- 1 : ปรับลำอิเล็กตรอนให้เล็กและคมชัดที่สุด
- 2 : ควบคุมปริมาณอิเล็กตรอนที่กริดควบคุม (Control grid)
- 3 : ควบคุมความสว่างของจอภาพ
- 4 : ควบคุมเวลากวาด (sweep) ลำอิเล็กตรอน (Electron beam)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 359 :
- กราติคูล (Graticule) ของหลอดรังสีแคโทดคืออะไร
- 1 : สเกลขนาดประมาณ 1 cm ของจอภาพ
- 2 : สเกลแนวนอนและแนวตั้งสำหรับอ่านเวลาและขนาดของสัญญาณ
- 3 : กราติคูลมีทั้งแบบภายนอกและภายใน
- 4 : ถูกทุกข้อ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 360 :
- ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสายโพรบอิมพิแดนซ์สูงของออสซิลโลสโคป
- 1 : สายโพรบแบบ (x10) ความต้านทานอินพุตจะเพิ่ม 10 เท่า
- 2 : สายโพรบแบบ (x10) คาปาซิเตอร์อินพุตจะลด 10 เท่า
- 3 : สายโพรบแบบ (x10) ความต้านทานอินพุตและคาปาซิเตอร์อินพุตจะเพิ่ม 10 เท่า
- 4 : ข้อ 1 และ 2 ถูก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 361 :
- เมื่อวัดสัญญาณไฟฟ้าใดๆ สัญญาณวัดจะถูกป้อนให้กับส่วนใดของ ออสซิลโลสโคป
- 1 : ภาคขยายแนวตั้ง
- 2 : ภาคขยายแนวนอน
- 3 : ไส้หลอด (Filament)
- 4 : กริดควบคุม (Control grid)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 362 :
- ขณะนำเอาออสซิลโลสโคป (Oscilloscope) ไปวัดสัญญาณรูปไซน์ (Sine curve) ปรากฏเป็นรูปคลื่นสัญญาณไซน์หลายๆ ตัวทับเหลื่อมกัน ถ้าต้องการปรับให้รูปคลื่นสัญญาณหยุดนิ่ง จะต้องปฏิบัติดังนี้
- 1 : ปิดเครื่องนานอย่างน้อย 3 นาที แล้วเปิดใหม่
- 2 : ตรวจเช็คขั้วต่อของสายสัญญาณ อาจหลวมทำให้มีสัญญาณรบกวนได้
- 3 : ปรับปุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Trigger
- 4 : ปรับความถี่ของการกวาดในแนวนอนให้มีความถี่เป็นจำนวนเท่าของสัญญาณไฟบ้าน 50 Hz
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 363 :
- ในการนำเอาออสซิลโลสโคป Single beam dual trace ไปใช้งาน จงเลือกข้อที่ไม่ถูกต้องที่สุด
- 1 : ถ้าความถี่ของสัญญาณสูงควรใช้ Alternate mode
- 2 : ถ้าความถี่ของสัญญาณต่ำควรใช้ Chop mode
- 3 : ถ้าความถี่ของสัญญาณต่ำควรใช้ Alternate mode
- 4 : ใน Alternate mode สัญญาณทั้ง 2 ช่องที่ปรากฏบนจอภาพไม่ได้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 364 :
- การปรับให้สัญญาณแรมป์ (Ramp signal) ของเพลตแนวนอน (Horizontal plate) เข้าจังหวะ (Synchronize) กับสัญญาณวัด ทำได้ด้วยการปรับอะไร
- 1 : ปรับคาบเวลาของสัญญาณแรมป์
- 2 : ปรับความเข้มของลำอิเล็กตรอน (Intensity)
- 3 : ปรับเลื่อนตำแหน่งภาพในแนวตั้ง (Vertical position)
- 4 : ปรับเลื่อนตำแหน่งภาพในแนวนอน (Horizontal position)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 365 :
- ถ้าเวลาครบรอบของคลื่นรูปไซน์ คือ 1ms ความถี่ของคลื่นไซน์นี้คือ
- 1 : 100 Hz
- 2 : 500 Hz
- 3 : 1 kHz
- 4 : 2 kHz
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 366 :
- แรงดันกระแสสลับรูปไซน์ ที่ปรากฏบนออสซิลโลสโคป มีค่าจากยอดถึงยอด (Peak to peak) วัดได้ 50 V ค่าอาร์เอ็มเอส (rms) ของแรงดันคือ
- 1 : 17.7 V
- 2 : 25 V
- 3 : 35.4 V
- 4 : 70.7 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 367 :
- ในออสซิลโลสโคปแบบหลอดรังสีแคโทดใช้อะไรเป็นตัวปรับภาพสัญญาณให้คมชัด
- 1 : สนามแม่เหล็ก
- 2 : สนามไฟฟ้า
- 3 : เลนส์นูน
- 4 : เลนส์เว้า
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 368 :
- ออสซิลโลสโคปจะสามารถตรวจวัดสัญญาณที่มีขนาดเล็กที่สุดได้เท่าไร ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติอะไร
- 1 : ความเข้มของลำอิเล็กตรอน
- 2 : การโฟกัส (Focusing)
- 3 : ค่าตัวประกอบการเห (Deflection factor)
- 4 : แบนด์วิดท์ของวงจรขยาย
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 369 :
- แบนด์วิดท์ (Bandwidth) ของออสซิลโลสโคป (Oscilloscope) ขึ้นอยู่กับอะไร
- 1 : แรงดันของแอโนด (Anode) เร่งความเร็ว
- 2 : ส่วนโฟกัส (Focus)
- 3 : ความเข้มของลำอิเล็กตรอน
- 4 : วงจรขยายของเพลตแนวตั้ง (Vertical amplifier)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 370 :
- แบนด์วิดท์ของออสซิลโลสโคป (oscilloscope) แบบแอนะลอกขึ้นอยู่กับส่วนประกอบใด
- 1 : วงจรขยายสัญญาณแนวตั้ง
- 2 : วงจรขยายสัญญาณแนวนอน
- 3 : ส่วนโฟกัส (focusing)
- 4 : วงจรกำเนิดสัญญาณแรมป์ (ramp generator)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 371 :
- สารที่ใช้เคลือบด้านในของจอภาพของออสซิลโลสโคป (oscilloscope) แบบหลอดรังสีแคโทด (cathode) เพื่อให้สามารถเปล่งแสงได้นั้นเป็นสารอะไร
- 1 : ธาตุฟอสฟอรัส (Phosphorus)
- 2 : สารประกอบฟอสฟอร์ (Phosphor)
- 3 : อลูมิเนียม (Aluminium)
- 4 : ทอง
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 372 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 373 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 374 :
- ค่าตัวประกอบการเห (deflection factor) ของออสซิลโลสโคป (Oscilloscope) คือ
- 1 : ค่าความไว (Sensitivity)ของออสซิลโลสโคป
- 2 : ค่าส่วนกลับความไวของออสซิลโลสโคป
- 3 : ค่าแบนด์วิดท์ (Bandwidth) ของออสซิลโลสโคป
- 4 : ค่าบอกขนาดแนวตั้งจอภาพ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 375 :
- ความจำแนกชัด (Resolution) ของเครื่องวิเคราะห์สเปกตรัม (Spectrum analyzer) ขึ้นอยู่กับอะไร
- 1 : แบนด์วิดท์ (bandwidth) ของวงจรกรองผ่านแถบ (Bandpass filter) ที่อยู่ต่อจากมิกเซอร์ (Mixer)
- 2 : แบนด์วิดท์ของวงจรขยายความถี่กลาง (Intermediate frequency amplifier)
- 3 : แบนด์วิดท์วงจรวีซีโอ (VCO)
- 4 : ตัวตรวจจับกรอบสัญญาณ (Envelope detector)
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 376 :
- การแสดงภาพในเครื่องวิเคราะห์สเปกตรัม (Spectrum analyzer) ค่าในแนวแกนนอนคือ
- 1 : ขนาดของสัญญาณในสเกลเชิงเส้น (Linear scale)
- 2 : ความถี่
- 3 : ขนาดสัญญาณในสเกลลอการิทึม (Logarithmic scale)
- 4 : เวลา
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 377 :
- 1 : 20 Hz
- 2 : 40 Hz
- 3 : 100 Hz
- 4 : 200 Hz
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 378 :
- กระแสไฟฟ้ากระแสสลับที่ กำหนด โดย i = 100sin 100
t A กระแสนี้จะมีค่า 50 A หลังจากเวลาผ่านไป
- 1 : 1/600 s
- 2 : 1/300 s
- 3 : 1/800 s
- 4 : 1/900 s
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
เนื้อหาวิชา : 31 : Magnetic measurement
ข้อที่ 379 :
- Hall effect transducer เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำที่นิยมนำไปใช้ในการวัดปริมาณอะไรบ้าง
- 1 : ความเข้มสนามแม่เหล็ก
- 2 : กระแสไฟฟ้า
- 3 : ตรวจจับการหมุนของเฟืองเกียร์โลหะ
- 4 : ถูกทุกข้อ
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 380 :
- หน่วยของความหนาแน่นเส้นแรงแม่เหล็ก (Magnetic flux density) คือ
- 1 : henry
- 2 : weber
- 3 : farad
- 4 : tesla
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 381 :
- ต้องการถ่ายโอนกำลังสูงสุดจากวงจรขยายที่มีความต้านทานภายใน 10 Ωไปยังโหลดโดยใช้หม้อแปลงไฟฟ้า (transformer) ที่มีอัตราส่วนรอบเป็น 1 : 10 ทำให้เกิดกำลังสูงสุดในโหลดความต้านทานของโหลดเป็นเท่าใด
- 1 : 100Ω
- 2 : 1kΩ
- 3 : 1Ω
- 4 : 0.1Ω
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 382 :
- ฟลักซ์ของแม่เหล็กไฟฟ้าเป็น 6 Wb และ ฟลักซ์ได้เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอเป็น 12 Wb ในช่วงเวลา 2วิ นาที ถ้าขดลวดมี 10 รอบ วางตัวนิ่งในสนามแม่เหล็ก จงคำนวณแรงดันที่เหนี่ยวนำ
- 1 : 60 V
- 2 : 30 V
- 3 : 120 V
- 4 : ไม่มีข้อใดถูก
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 383 :
- ถ้ามีกระแสไหลในลวดตัวนำสองเส้นที่วางขนานกันและทำให้เกิดแรงดูดระหว่างกัน แสดงว่ากระแสในลวดตัวนำทั้งสอง
- 1 : มีทิศทางตรงกันข้าม
- 2 : มีขนาดเท่ากัน
- 3 : มีทิศเดียวกัน
- 4 : มีขนาดต่างกัน
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
เนื้อหาวิชา : 32 : Using electronic instruments
ข้อที่ 384 :
- 1 : 6.25
- 2 : 7.25
- 3 : 8.25
- 4 : 9.25
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 385 :
- สัญญาณรบกวนนอร์มอลโหมด (Normal-mode noise) ในการวัดคือ
- 1 : สัญญาณรบกวนที่เข้ามาในระบบการวัดโดยอนุกรมอยู่กับแหล่งจ่ายสัญญาณวัด
- 2 : สัญญาณรบกวนที่เข้ามาในระบบการวัดเหมือนสัญญาณรบกวนคอมมอนโหมด (Common-mode noise)
- 3 : เป็นสัญญาณรบกวนที่ขจัดออกได้ด้วยวงจรขยายอินสทรูเมนเทชัน (Instrumentation amplifier)
- 4 : เป็นสัญญาณรบกวนจากระบบกราวด์
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 386 :
- อัตราขยาย -15 dB ในวงจรหมายถึง
- 1 : สัญญาณขาออก มากกว่า สัญญาณขาเข้า
- 2 : สัญญาณขาเข้า มากกว่า สัญญาณขาออก
- 3 : สัญญาณขาเข้า เป็น 15 เท่า ของสัญญาณขาออก
- 4 : สัญญาณขาออก เป็น 15 เท่า ของสัญญาณขาเข้า
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 387 :
- 1 : -36.67 dB
- 2 : -41.58 dB
- 3 : -48.24 dB
- 4 : -49.36 dB
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 388 :
- วงจรมีอัตราขยายแรงดันเป็น 20 บอกได้ว่ามีการขยายแรงดัน เป็น
- 1 : 13 dB
- 2 : 20 dB
- 3 : 26 dB
- 4 : 40 dB
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 389 :
- จากวงจรมิเตอร์อิเล็กทรอนิกส์วัดแรงดันในรูปนี้ ข้อใดที่ไม่ใช่คุณประโยชน์ที่ได้เพิ่มเติมจากการใส่วงจรอิเล็กทรอนิกส์เข้าไป
- 1 : เพิ่มความเร็วในการวัด
- 2 : เพิ่มความไวของมิเตอร์
- 3 : วัดได้แม่นยำมากขึ้น
- 4 : ลด Loading effect
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 390 :
- วงจรขยายสัญญาณในเครื่องมือวัดมี SNR (Signal to noise ratio) ด้านเข้าเท่ากับ 10 และมี SNR ด้านออกเท่ากับ 2 จงหาค่า Noise factor
- 1 : 2
- 2 : 5
- 3 : 10
- 4 : 20
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 391 :
- วงจรขยายสัญญาณในเครื่องมือวัดมี SNR (Signal to noise ratio) ด้านเข้าเท่ากับ 10 และมี SNR ด้านออกเท่ากับ 2 จงหาค่า Noise figure
- 1 : 2 dB
- 2 : 5 dB
- 3 : 7 dB
- 4 : 10 dB
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 392 :
- โวลต์มิเตอร์แบบหลายพิสัย (Multi - range) ในรูปนี้ ถ้าสวิตช์เลือกพิสัยอยู่ที่ตำแหน่ง A ดังในรูป จะมีอัตราการลดทอนสัญญาณด้านเข้า (Attenuation factor) เป็นเท่าไร
- 1 : 10
- 2 : 20
- 3 : 40
- 4 : 200
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 393 :
- 1 : 0.10
- 2 : 0.11
- 3 : 9
- 4 : 10
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 394 :
- 1 : 105 dBm
- 2 : 67 dBm
- 3 : 57 dBm
- 4 : 67 dBm
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 395 :
- 1 : 50 mV
- 2 : 950 mV
- 3 : 3.8 V
- 4 : 20 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 396 :
- 1 : 40
- 2 : 380
- 3 : 95000
- 4 : 380000
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 397 :
- 1 : 175 mV
- 2 : 350 mV
- 3 : 700 mV
- 4 : 7 V
- คำตอบที่ถูกต้อง : 2
ข้อที่ 398 :
- 1 : 70 mV
- 2 : 99 mV
- 3 : 140 mV
- 4 : 198 mV
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
เนื้อหาวิชา : 33 : Transducers
ข้อที่ 399 :
- 1 : 0.1 %
- 2 : 0.2 %
- 3 : 3 %
- 4 : 40 %
- คำตอบที่ถูกต้อง : 1
ข้อที่ 400 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 3
ข้อที่ 401 :
- 1 :
- 2 :
- 3 :
- 4 :
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4
ข้อที่ 402 :
- ขดลวดขดหนึ่งมีความต้านทาน 100 Ω ที่อุณหภูมิ 90 oC จากนั้นที่อุณหภูมิ 100 oC ความต้านทานของมันเปลี่ยนเป็น 101 Ω ค่าความสัมประสิทธิ์ต่ออุณหภูมิของลวดนี้ ที่อุณหภูมิ 90 oC คือ
- 1 : 0.01 / oC
- 2 : 0.1 / oC
- 3 : 0.0001 / oC
- 4 : 0.001 / oC
- คำตอบที่ถูกต้อง : 4